Fitch เตือน อาจหั่นเครดิตธนาคารสหรัฐฯ กว่า 10 แห่ง! รวมถึงแบงก์ใหญ่อย่าง JP Morgan ด้วย / จับตาความเสี่ยงอุตสาหกรรม ‘ทรัสต์จีน’ หวั่นลุกลามกระเทือนเศรษฐกิจแดนมังกร / หอการค้าฯ คาด นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ช่วยกระตุ้น GDP ได้ 2.5-3% แต่ห่วงใช้งบสูง

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจสหรัฐฯ

Fitch เตือน อาจหั่นเครดิตธนาคารสหรัฐฯ กว่า 10 แห่ง! รวมถึงแบงก์ใหญ่อย่าง JP Morgan ด้วย

  • Fitch Ratings บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำในสหรัฐฯ อาจต้องปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา รวมถึงธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ อย่าง JP Morgan Chase โดยมีเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการเดินหน้าปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของภาคการเงินการธนาคารโดยรวม
  • Chris Wolfe นักวิเคราะห์ของ Fitch Ratings อธิบายว่า ก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน Fitch ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารสหรัฐฯ ลงสู่ระดับ AA- เรียบร้อยแล้ว กระนั้นการปรับลดอันดับดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารแต่ละแห่งแต่อย่างใด
  • สำหรับการประเมินอันดับความน่าเชื่อถือรายธนาคารนี้ Wolfe เตือนว่า การดำเนินการในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาด นอกจากนี้ ความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของการผิดนัดชำระหนี้ในภาคธนาคาร หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ (เดอะสแตนดาร์ด)

เศรษฐกิจจีน

จับตาความเสี่ยงอุตสาหกรรม ‘ทรัสต์จีน’ หวั่นลุกลามกระเทือนเศรษฐกิจแดนมังกร

  • ปัญหาในอุตสาหกรรมทรัสต์เริ่มปะทุให้เห็นอย่างชัดเจนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อบริษัททรัสต์ที่เชื่อมโยงกับยักษ์ใหญ่ทางการเงิน Zhongzhi Enterprise Group Co. พลาดการชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงหลายรายการ ซึ่งการเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อ่อนไหวที่นักลงทุนจำนวนมากกังวล
  • ด้านผู้กำกับดูแลการธนาคารของจีนอย่าง The National Administration of Financial Regulation ได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อประเมินหนี้คงค้างและความเสี่ยงของ Zhongrong ที่จะมีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
  • แม้ว่าปัญหาทางการเงินในธุรกิจอสังหาจะค่อนข้างจำกัด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทจัดการทรัสต์และความมั่งคั่งมีศักยภาพมากกว่าที่จะกระจายไปกระทบนักลงทุนแบบ ‘mom-and-pop’ บุคคลหรือองค์กรที่ร่ำรวย
  • บรรดานักลงทุนต่างชาติกำลังสูญเสียความสนใจในจีน รวมถึงเฮดจ์ฟันด์ที่เกี่ยวข้องกับจีน ซึ่งข้อมูลจาก Preqin พบว่า จำนวนกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มุ่งเน้นไปที่จีนลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 (บลูมเบิร์ก)

เศรษฐกิจไทย

หอการค้าฯ คาด นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ช่วยกระตุ้น GDP ได้ 2.5-3% แต่ห่วงใช้งบสูง 

  • ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาคเอกชนติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และเห็นทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสามารถรวบรวมเสียงได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ โดยปัจจุบันทราบว่ามีการรวมเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลรวม 9 พรรค
  • สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่จำเป็นต้องดูแลทันทีคือการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และลดต้นทุนภาคเอกชน ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า ที่ยังอยู่ในระดับสูง และการเผชิญกับปัญหาภาคการส่งออกที่ชะลอตัวติดลบต่อเนื่อง 8-9 เดือน
  • เศรษฐกิจภายในประเทศน่ากังวล โดยเฉพาะกำลังซื้อของประชาชน ที่สะท้อนจากการซื้อสินค้าคงทนตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มลดลง เป็นสัญญาณว่าประชาชนไม่มีรายได้และระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
  • ทั้งนี้ หอการค้าฯ ยังคงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสที่จะเติบโตได้ 3.0-3.5% และมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตอย่างเต็มที่จากแรงขับเคลื่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้นภาคเอกชนหวังว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และมีเสถียรภาพ (เดอะสแตนดาร์ด)