ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ
คะแนนนิยม “ทรัมป์” ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ประชาชนกังวลเศรษฐกิจ-ตลาดผันผวน
- ผลสำรวจของแกลลัพ (Gallup) เผยให้เห็นว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีคะแนนนิยมเฉลี่ยอยู่ที่ 45% ในช่วงไตรมาสแรกของการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง แม้สูงกว่าคะแนนเฉลี่ย 41% ที่ทำได้ในสมัยแรก แต่ก็ยังต่ำกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทุกคนในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน
- ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 1-14 เม.ย. ยังพบว่า 53% ของชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับการทำงานของทรัมป์ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจอีกสามครั้งก่อนหน้านี้ ขณะที่คะแนนนิยมสูงสุดของทรัมป์ในปีนี้เกิดขึ้นในเดือน ม.ค. โดยอยู่ที่ 47%
- แกลลัพระบุว่า คะแนนนิยมเฉลี่ยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทุกคนตั้งแต่ปี 2495-2563 อยู่ที่ 60% สำหรับไตรมาสแรกของการดำรงตำแหน่ง โดยทรัมป์เป็นประธานาธิบดีเพียงคนเดียวที่มีคะแนนนิยมเฉลี่ยต่ำกว่า 50% ในช่วงไตรมาสแรกของการดำรงตำแหน่ง
- ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจนั้น มีชาวอเมริกันเพียง 44% ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าทรัมป์จะตัดสินใจหรือแนะนำแนวทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งระบุว่า มีความเชื่อมั่นในตัวทรัมป์ “น้อยมาก” หรือ “แทบไม่มีเลย” (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
เศรษฐกิจจีน
จีนขู่ ‘จะตอบโต้ทุกประเทศ‘ ที่ร่วมมือกับสหรัฐกดดันจีน
- กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ในวันที่ 21 เม.ย.68 เตือนว่า “จีนจะตอบโต้ทุกประเทศที่ร่วมมือกับสหรัฐ ในลักษณะที่กระทบต่อผลประโยชน์ของจีน” ในขณะที่สงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังคุกคามประเทศอื่นๆ ด้วย
- ซีเอ็นบีซี รายงานว่า จีนเตือนเรื่องนี้ในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กำลังวางแผนที่จะใช้การเจรจาภาษีศุลกากรเพื่อกดดันบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐให้จำกัดการติดต่อกับจีน โดยในเดือนนี้ทรัมป์ได้ประกาศระงับการขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหญ่กับประเทศอื่นๆ เป็นเวลา 90 วัน แต่ยังคงเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้าจากจีนอีกรวมเป็น 145%
- “จีนขอคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อฝ่ายใดก็ตามที่บรรลุข้อตกลงโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน หากสิ่งนี้เกิดขึ้น จีนจะไม่ยอมรับ และจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด” แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุ โดยแถลงการณ์ยังเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับทุกประเทศด้วย เมื่อการค้าระหว่างประเทศกลับเข้าสู่ “กฎแห่งป่า” (law of the jungle)
- ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังเตรียมกดดันประเทศต่างๆ ที่ต้องการเจรจาลดหรือยกเว้นภาษีจากสหรัฐ ให้จำกัดการค้ากับจีน ซึ่งรวมถึงการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน (กรุงเทพธุรกิจ)
เศรษฐกิจไทย
สบน.พร้อมขยายเพดานหนี้เกิน 70% เปิดทางรัฐกู้ดูแลเศรษฐกิจ
- นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หากรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 75-80% หรือกู้เพิ่มเพื่อนำเงินมาใช้ดูแลเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วน ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักของกฎหมายที่ตั้งไว้ คือ เป็นเรื่องฉุกเฉิน จำเป็น เร่งด่วน และต้องมีเป้าหมาย โครงการใช้เงินที่ชัดเจน ลักษณะเหมือนกับตอนออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.กู้เงิน) ช่วงสถานการณ์โควิด
- ปัจจุบันรัฐบาลมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 12.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 64.21% ของจีดีพี โดยสิ้นปีนี้หนี้จะเพิ่มไปอยู่ที่ 65.5% และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 67.3% ทั้งนี้ หากมองผลกระทบจากนโยบายกำแพงภาษีสหรัฐถือว่าขณะนี้ฐานะการคลังของประเทศยังแข็งแกร่ง ทุกอย่างคงที่ ยังไม่มีความจำเป็นต้องแก้กรอบเพดานหนี้สาธารณะ แต่หากมีนโยบายที่จะกระตุ้นการลงทุน ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง (ฐานเศรษฐกิจ)