ตลาดหุ้นไทยกำลังถูกสิงคโปร์และมาเลเซียแซง ดัชนีร่วง 14% ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา / เงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่เวียดนามเพิ่ม 8.4% ในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ / ทรัมป์พร้อมดันสหรัฐฯ สู่ชาติมหาอำนาจที่สนับสนุน Bitcoin หากได้เป็นประธานาธิบดี

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจไทยและเอเชีย

ตลาดหุ้นไทยกำลังถูกสิงคโปร์และมาเลเซียแซง ดัชนีร่วง 14% ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา

  • Bloomberg ระบุว่า เมื่อปีก่อนมูลค่าตามราคาตลาดของตลาดหุ้นไทยมากกว่าสิงคโปร์ราว 1.25 แสนล้านดอลลาร์ แต่ล่าสุดช่องว่างดังกล่าวลดลงมาเหลือเพียง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ดัชนี SET ร่วงลงมา 14% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นตลาดที่ลดลงมากที่สุดในบรรดาดัชนีหลักทั่วโลก
  • ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยมาจากหลายส่วน เช่น การเทขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่องกว่า 5 แสนล้านบาทตลอด 5 ปีที่ผ่านมา, ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความล่าช้าของนโยบายรัฐบาล รวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
  • ท่ามกลางแรงขายของต่างชาติในหุ้นไทย กลับกันมีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นมาเลเซียราว 85 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าตั้งแต่ต้นปี
  • ตลาดหุ้นมาเลเซียได้อานิสงส์จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งเป็นศูนย์ข้อมูล AI และศูนย์กลางห่วงโซ่อุปทานชิป ดัชนี KLCI เพิ่มขึ้น 11% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค
  • ส่วนสิงคโปร์ นักลงทุนต่างชาติได้ลดการขายลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้วตามข้อมูลจาก EPFR
  • ส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นในมูลค่าตลาดของสิงคโปร์เป็นผลจากหุ้นธนาคาร ซึ่งได้ทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ช่วยให้ดัชนี STI เพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในปีนี้ (เดอะสแตนดาร์ด)

เศรษฐกิจเวียดนาม

เงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่เวียดนามเพิ่ม 8.4% ในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้

  • กระทรวงการวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม เปิดเผยว่า เวียดนามได้รับเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้า 1.255 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 20 ก.ค. โดยเพิ่มขึ้น 8.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • รายงานระบุว่า คำมั่นสัญญาการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งบ่งชี้ถึงขนาดของเงินทุนไหลเข้าในอนาคต เพิ่มขึ้น 10.9% ในช่วงเวลาดังกล่าว สู่ระดับ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์
  • จากจำนวนดังกล่าวนั้น 70% จะลงทุนในภาคการผลิตและการแปรรูป ขณะที่ 16% จะลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ (อินโฟเควสต์)

เทคโนโลยี

ทรัมป์พร้อมดันสหรัฐฯ สู่ชาติมหาอำนาจที่สนับสนุน Bitcoin หากได้เป็นประธานาธิบดี

  • ในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2024 โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกัน ขึ้นเวทีปราศรัยภายในงาน Bitcoin Conference 2024 ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ว่ามีความต้องการที่จะผลักดันให้สหรัฐอเมริกาเป็น ‘Bitcoin Superpower’ หรือประเทศมหาอำนาจที่สนับสนุน Bitcoin ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาว่า จะสร้างสหรัฐฯ เป็น ‘ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโต’ และจะเพิ่มจำนวนการถือครอง Bitcoin ในฐานะ ‘ทุนสำรอง’ โดยทรัมป์กล่าวว่าจะไม่มีการขายเหรียญดิจิทัลดังกล่าวออกจากคลัง
  • นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังประกาศว่าเขาจะปลด แกรี เจนส์เลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หากได้รับเลือกตั้ง อีกทั้งวางแผนจะจัดตั้งสภาที่ปรึกษาคริปโตขึ้นด้วย
  • การขึ้นปราศรัยครั้งนี้ของโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของเขาที่เปลี่ยนแปลงไปแบบ ‘หน้ามือเป็นหลังมือ’ เกี่ยวกับคริปโต จากในอดีตที่เคยเป็น ‘ผู้ต่อต้าน’ กลายมาเป็น ‘ผู้สนับสนุน’
  • ณ กรอบเวลาปัจจุบัน Bitcoin มีระดับราคาอยู่ราว 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ ฟื้นตัวขึ้นมาประมาณ 25% จากจุดต่ำสุดของเดือนกรกฎาคมที่ 53,725 ดอลลาร์สหรัฐ (เดอะสแตนดาร์ด)