CPF ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อหุ้นยั่งยืนหรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2565 โดย CPF ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ซึ่งในปีนี้ มีบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคัดเลือก 170 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 144 บริษัทในปีที่ผ่านมา สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และมีบรรษัทภิบาลที่ดี ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจการตามหลัก BCG (Bio-Circular-Green Economy)
CPF นำปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน คือ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท เป็นแนวปฏิบัติ และกำหนดเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืนของบริษัท ภายใต้ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายกลยุทธ์ความยั่งยืน “CPF 2030 Sustainability in Action” ขับเคลื่อนความยั่งยืนใน 10 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2564-2573) หรือ ทศวรรษแห่งการลงมือทำ บนพื้นฐานการดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESG)
ในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการจัดการพลังงานเพื่อความยั่งยืนและมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสนับสนุนแหล่งน้ำและดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและป่าชายเลน การส่งเสริมสถานประกอบการทั่วประเทศของ CPF เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้ และโครงการปกป้องท้องทะเลและมหาสมุทร ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย โครงการขยะคืนฝั่งทะเลสวยด้วยมือเราของกรมประมง กิจกรรมขยะดีมีค่า ภายใต้โครงการศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา หรือ FLEC กิจกรรมเก็บขยะชายหาด กิจกรรมกับดักขยะทะเล เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
พร้อมกันนี้ CPF มีเป้าหมายสร้างความยั่งยืนของซัพพลาย เชน สนับสนุนการเติบโตของคู่ค้าและลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน มีซัพพลายเชน 15,000 ราย เป็นผู้ประกอบการ SME 6,000 ราย โดยในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ Faster Payment ช่วยลดเครดิตเทอมให้เอสเอ็มอี ปรับจากที่เคยจ่ายให้ทุก 60 วัน ลดเหลือ 30 วัน ช่วยให้สภาพคล่องทางการเงินของ SME ดีขึ้น และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมทั้งได้ต่อยอดสู่โครงการ CPFxBBL เสริมสภาพคล่อง เคียงข้างคู่ค้า โดยร่วมมือกับ ธ.กรุงเทพ ส่งเสริมซัพพลาย เชน กว่าหมื่นรายให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ CPF มุ่งมั่นนำหลักสิทธิมนุษยชนมาเป็นพื้นฐานในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน มีการปฏิบัติต่อบุคลากรและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ส่งเสริมการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย รวมทั้งถ่ายทอดและต่อยอดความรู้และการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนให้กับกลุ่มคู่ค้าธุรกิจและเกษตรกรในห่วงโซ่อุปทาน ร่วมยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนในอุตสาหกรรมอาหารและสังคมโดยรวม
Cr.PR CPF