ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การฟื้นตัวจากผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตโควิด-19 คู่ค้าเอสเอ็มอี 6,000 ราย ซัพพลายเออร์ของ ได้รับประโยชน์เต็มจากโครงการชำระค่าสินค้าและบริการ เครดิตเทอมภายใน 30 วัน (Faster Payment Project) ช่วยเสริมความคล่องตัวในการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มุ่งรักษาธุรกิจและการจ้างงานต่อเนื่อง ฟื้นตัวแข็งแกร่ง ร่วมเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19
คุณกฤษฎา สิงหเดชา บริษัท ไวภพ วิศวกรรม จำกัด บริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นคู่ค้า CPF มานานหลายปีบอกว่า “โครงการเครดิตเทอม 30 วัน ของ CPF มีประโยชน์มากกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว หลังปริมาณงานและยอดสั่งซื้อลดลงมาก การได้รับเงินเร็วขึ้นช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ มีเงินใช้จ่ายในธุรกิจและลงทุนมากขึ้นในช่วงสภาพที่เศรษฐกิจขาลง”
ด้านคุณพิชิต กาญจนประพิณ เจ้าของกิจการ หจก.ไทยรัตน์วัสดุภัณฑ์ (1997) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ใช้ในโรงงาน จ.นครราชสีมา
“ช่วงวิกฤตโควิด-19 ยอดสั่งซื้อสินค้าของบริษัทลดลงมาก เครดิตเทอม 30 วันเป็นโครงการที่ดี ช่วยบรรเทาผลกระทบที่มาจากยอดขายลดลง การที่เอสเอ็มอีรายเล็กๆ มีเงินเข้ามาหมุนเวียนในธุรกิจเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน และมีกำลังในการรักษาธุรกิจให้เดินหน้าต่อได้และรักษาคนงานได้ ซึ่งส่งผลดีต่อครอบครัวของลูกจ้างได้อีกด้วย
ขณะที่ คุณสมเกียรติ บุญวัฒน์ เจ้าของกิจการ ห้างหุ้นส่วน เอส.เค. เวลดิ้ง 1999 เล่าว่า “ช่วงโควิด-19 ส่งผลให้งานน้อยลงจนถึงขั้นไม่มีงาน แต่ผู้ประกอบการยังมีค่าใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา ต้องดูแลลูกจ้าง การได้รับค่าสินค้าและบริการจากซีพีเอฟภายใน 30 วัน เป็นผลดีต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กได้มีเงินหมุนมาใช้จ่ายในการดำเนินงาน และสามารถดูแลลูกจ้างต่อได้”
คุณเกษม วิบูลย์รัตนศรี ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุภัคแอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส “โครงการเครดิตเทอม 30 วัน ช่วยบรรเทาผลกระทบจากยอดสั่งซื้อของบริษัทที่ลดลงกว่า 30-40% ช่วยให้สภาพคล่องดีขึ้น เอื้อต่อการบริหารเงินทุนภายในร้านและสร้างโอกาสในการเพิ่มลูกค้าได้”
ผู้ประกอบการ SMEs เป็นหัวใจสำคัญในห่วงโซ่การผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ ปลอดภัย มาตรฐานสากล แก่ผู้บริโภค ของ CPF และยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการผลิต การจ้างงาน การลงทุน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โครงการ Faster Payment จึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่บริษัทฯ จับมือคู่ค้าเพื่อเดินหน้าฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างมั่นคงและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ที่สำคัญเป็นแนวทางช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
CPF ร้านค้าและแบรนด์สินค้าในกลุ่มของซีพีเอฟ ทั้ง CP, CP Freshmart, ห้าดาว เชสเตอร์ ดัค กาลบี้ CP-HiLai เป็นต้น ประกาศชำระเงินค่าสินค้าภายใน 30 วัน ตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นมา โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือคู่ค้า SMEs ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท รวมทั้งคู่ค้าที่เป็นรายบุคคลกว่า 6,000 รายทั่วประเทศ เพื่อรักษาธุรกิจให้ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการร่วมสนับสนุนฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
Cr.CPF