CPF เดินหน้าพัฒนาการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางอาหารและช่วยเหลือสังคมฝ่าวิกฤตโควิด

CEO ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ นำทีมคณะผู้บริหาร พบนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้จัดการกองทุน เพื่อให้ข้อมูลผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2564 ว่า CPF ในฐานะเป็นลีดเดอร์ด้าน Food Security ให้กับประเทศไทย รวมถึงประเทศต่างๆ ที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุน นอกจากการเป็นผู้ประกอบการแล้ว ยังมุ่งสร้างความมั่นคงทางอาหารและให้ความช่วยเหลือสังคม เพื่อร่วมสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานเติบโตอย่างมั่นคง
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการยกระดับสินค้า Commodity Product เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการเพิ่มมูลค่าโดยอาศัยพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อาทิ ไก่เบญจา หมูชีวา หมูซีพี คูโรบูตะ ล่าสุดที่ บริษัทฯ กำลังทำการตลาด ได้แก่ เนื้อสัตว์ที่มาจากกระบวนการเลี้ยงด้วย probiotics ในอาหารสัตว์ เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพดีขึ้นเป็นผลดีต่อผู้บริโภค
ส่วนของการดำเนินธุรกิจ Feed – Farm – Food ธุรกิจสุกร เป็นธุรกิจที่โดดเด่น บริษัทฯ มีขีดความสามารถสูงในการพัฒนาสายพันธุ์ อาหารและระบบการเลี้ยง ขณะเดียวกัน ธุรกิจสัตว์น้ำ ซึ่งเรามีการพัฒนาฟาร์มกุ้งมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นธุรกิจที่โดดเด่นได้เช่นกันกับธุรกิจอาหารมีทิศทางการเติบโตที่ดี
CPF พยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ 3 ด้าน ประกอบกลยุทธ์ Nutrition พัฒนาสินค้าที่มีอยู่จากที่เป็นกึ่ง Commodity ให้มีมูลค่าเพิ่มทางคุณค่าโภชนาการ กลยุทธ์ที่สอง Digitalization การประยุกต์ใช้ระบบดิจิทัลในการทำงานมากขึ้น และกลยุทธ์ที่ 3 Engineering เพื่อยกระดับการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การพัฒนาระบบการผลิตอัตโนมัติ (automation) ทั้ง 3 กลยุทธ์นี้ จะเป็นเสาหลักในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกัน CPF ยังทำหน้าที่ในการเป็น Good Corporate Citizen ให้ความช่วยเหลือสังคมในช่วงโควิด ริเริ่มและดำเนิโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” มาตั้งแต่ปีที่แล้วต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด CPF ยังช่วยเหลือสังคม ตามนโยบายของท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ผนึกพลังร่วมกับเครือซีพีและพันธมิตร แจกข้าวกล่อง 2 ล้านกล่องในโครงการ “ครัวปันอิ่ม” โดยบริษัทฯ ผลิต 1 ล้านกล่อง และอีก 1 ล้านกล่อง ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารย่อยช่วยผลิตข้าวกล่องเพื่อนำไปแจกจ่ายให้ชุมชนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเคียงข้างคนไทยฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน
CEO คุณประสิทธิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์โควิด ว่า ความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจ อยู่ที่การจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในห่วงโซ่อุปทาน ทั้งคู่ค้า ซึ่งในส่วนของ CPF มั่นใจว่าสามารถจัดการเรื่องนี้เป็นอย่างดี อาทิ การจัดซื้อวัคซีนจากมูลนิธิจุฬาภรณ์ มาฉีดให้พนักงานได้ร้อยละ 90 ของพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 7 หมื่นคน การใช้มาตรการ “บับเบิ้ลแอนด์ซีล” ซึ่งเราเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ทำเรื่องนี้ การตรวจเชิงรุกพนักงาน โดยจัดหาชุดตรวจสอบ Antigent Test Kits ช่วยให้เราดำเนินการจัดการกับสถานการณ์ได้เร็ว รวมถึงการสร้างโรงพยาบาลสนาม โดยร่วมกับโรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งที่สระบุรี โดยเฉพาะที่กรุงเทพฯ สร้างโรงพยาบาลสนามที่มาตรฐานสูงสามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองได้ และล่าสุดสร้างโรงพยาบาลสนามที่ โรงงานแกลง จ.ระยอง นำแนวทางการกักตัวในโรงงาน (Factory Quarantine) มาใช้ ตามมาตรการ ก.สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานและชุมชนรอบข้าง
Cr.PR CPF