ซีพีเอฟ มุ่งเน้นบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและใช้น้ำตลอดกระบวนการผลิตด้วยความรับผิดชอบ ลดการสูญเสียน้ำ และลดพึ่งพาการใช้น้ำจากแหล่งน้ำภายนอก ยึดหลัก 3Rs คือ ลดการใช้น้ำ (Reduce) นำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) โชว์ผลสำเร็จลงทุนเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำ ทำให้ ปี 2565 สามารถเพิ่มปริมาณการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ สนับสนุนการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทาน
คุณกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กรและลงทุนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ F ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำตลอดกระบวนการผลิตอย่างรับผิดชอบ โดยกำหนดนโยบายบริหารจัดการน้ำมุ่งเน้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการใช้น้ำภายในองค์กรและลดการพึ่งพาแหล่งน้ำภายนอก ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และหลัก 3Rs คือ ลดการใช้น้ำ (Reduce) นำน้ำกลับมาใช้ใหม่โดยผ่านการบำบัด (Recycle) และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำโดยไม่ผ่านการบำบัด (Reuse) ทำให้ผลการดำเนินงาน ปี 2565 ในกิจการประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย ฟิลิปปินส์ ตุรเคีย มาเลเซีย และลาว สามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่และนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ ปริมาณรวม 55 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นผลจากการลงทุนในเทคโนโลยี เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
ซีพีเอฟ พัฒนานวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการจัดการน้ำในองค์กร ทั้งในธุรกิจสัตว์บกและธุรกิจสัตว์น้ำ โดยนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดกลับมาใช้ประโยชน์โดยตรงในกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างพื้นถนน ส่วนกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycling Process) จะนำระบบกรองความละเอียดสูงแบบอัลตราฟิเตรชั่น (Ultrafitration : UF) และระบบกรองน้ำขั้นสูงแบบรีเวิร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis : RO) มาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วจนได้น้ำสะอาด คุณภาพตามมาตรฐานการประปา หมุนเวียนกลับมาใช้ในระบบสนับสนุนการผลิต (Utility System) ที่ไม่สัมผัสโดยตรงกับอาหาร เช่น ระบบระบายความร้อนของระบบทำความเย็น ทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์
ปัจจุบันสายธุรกิจต่างๆ ของซีพีเอฟ ยังพัฒนานวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับโครงการลดการใช้น้ำในฟาร์มและการใช้น้ำจากภายนอก อาทิ “ธุรกิจสุกร” โครงการบริหารน้ำบำบัดจากไบโอแก๊สสู่กรีนฟาร์ม สามารถใช้น้ำบำบัดจากไบโอแก๊สทดแทนการใช้น้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้กว่า 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และโครงการปันน้ำปุ๋ย ส่งมอบน้ำปุ๋ยให้แก่เกษตรกรที่ขอรับน้ำจากการบำบัดจากฟาร์ม ซึ่งมีธาตุอาหารของพืชไปใช้แทนปุ๋ยเคมี “ธุรกิจไก่ไข่” ลดการใช้น้ำในระบบไบโอแก๊สและนำน้ำทิ้งที่เกิดขึ้นจากระบบไบโอแก๊สในบ่อรับน้ำ หมุนเวียนกลับมาใช้ผสมมูลไก่ก่อนเข้าบ่อ Cover Lagoon ธุรกิจไก่เนื้อ ทำโครงการเปลี่ยนเครื่องล้างอุปกรณ์ภายในโรงฟัก เพื่อลดการใช้น้ำจากเครื่องล้าง ถาดไข่ฟัก ถาดเกิด กล่องลูกไก่ ภายในโรงฟัก เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมกับคู่ค้าธุรกิจในการจัดการความเสี่ยงเพื่อส่งเสริมความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายภายในปี 2573 คู่ค้าธุรกิจที่ได้รับการระบุว่ามีผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำในระดับสูง ให้จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ยังคำนึงถึงชุมชนรอบข้าง โดยสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งน้ำที่มีคุณภาพ สร้างความตระหนักให้พนักงานรู้ในคุณค่าและดูแลการใช้น้ำภายในองค์กร ร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่า ซึ่งเป็นต้นน้ำของแหล่งน้ำธรรมชาติที่นำมาใช้ในด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การดำเนินธุรกิจ การอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างความยั่งยืนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน
“ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ต้องพึ่งพิงทรัพยากรน้ำทั้งทางตรงและทางอ้อมในการดำเนินธุรกิจ อาทิ ใช้น้ำในการเลี้ยงสัตว์บกและสัตว์น้ำ การผลิตไอน้ำในระบบอุตสาหกรรม (Steam Boiler) การหล่อเย็น การเพาะปลูกพืชอาหารสัตว์ในกิจกรรมต้นน้ำ การเลี้ยงสัตว์ของคู่ค้าธุรกิจ การส่งเสริมให้ชุมชนเข้าถึงแหล่งน้ำ การจัดการน้ำเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชุมชนรอบข้าง บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการจัดการการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ SDGs ข้อ 6 การสร้างหลักประกันเรื่องน้ำให้มีการจัดการอย่างยั่งยืน รวมไปถึงการปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำ” คุณกอบบุญ กล่าว
ที่มา PR CPF