ซีพีเอฟมองแนวโน้มไตรมาส 2 ต้นทุนอาหารสัตว์เลยจุดสูงสุดไปแล้ว เทรนด์ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกทรงตัว ทั้งข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าว ปลาป่น ส่วนข้าวสาลีราคาลดลง ส่วนภาวะโรคระบาดสัตว์คลี่คลาย เหลือปัญหาหมูเถื่อนยังมีอยู่
คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า สถานการณ์การผลิตปศุสัตว์ในไตรมาส 2 มีแนวโน้มว่าคงจะทรงตัว จากปัจจัยสถานการณ์ราคาวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย อาจจะเรียกว่าเลยจุดสูงสุดไปแล้ว ต่อไปน่าจะกลับมาดีขึ้น
ส่วนปัจจัยเรื่องโรคระบาด ต้องยอมรับว่ามีการระบาดเพิ่มขึ้นในบางช่วงบางพื้นที่ ส่วนหนึ่งเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในญี่ปุ่นและไต้หวัน แต่ในประเทศไทยยังมั่นใจว่าสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ที่ผ่านมาทางซีพีเอฟได้ส่งออกไข่ไก่ไปช่วยในประเทศไต้หวัน 1 ลอต หลักแสนฟอง และส่งไข่ไก่เหลวพาสเจอไรซ์ไปช่วยในญี่ปุ่น ซึ่งการส่งออกนั้นทางบริษัทต้องบริหารจัดการเพื่อดูแลไม่ได้เกิดผลกระทบต่อการบริโภคและราคาในประเทศไทย”
สำหรับสถานการณ์ราคาหมูที่ปรับตัวลดลงนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัญหาหมูเถื่อนที่ยังคงมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลสะท้อนมาจากการนำเข้ามาทางยุโรป ซึ่งตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาหมูขณะนี้ได้ปรับลดลงมาเล็กน้อย
ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์อัพเดต
รายงานข่าวจากซีพีเอฟระบุว่า สถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัว ประกอบด้วย ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีแนวโน้มทรงตัว ราคา 13.00 บาทต่อกิโลกรัม จากโรงงานหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยแนวโน้มตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 14 เมษายน 2566 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 651.00 643.4 เซนต์/บุชเชล (เทียบเท่า 8.673 บาท ต่อกิโลกรัม ณ THB34.243/USD) อยู่ในระดับทรงตัว
ขณะที่รายงานอุปสงค์และอุปทานจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ประกาศตัวเลขสต๊อกข้าวโพดสหรัฐ ฤดูกาล 2565/2566 คงเหลือที่ 1,342 ล้านบุชเชล ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่ผ่านมา ส่วนสภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ความคืบหน้าการเพาะปลูกข้าวโพดสหรัฐ ปัจจุบันอยู่ที่ 3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย แต่เร็วกว่าปีที่ผ่านมาและเร็วกว่าค่าเฉลี่ย
ขณะที่ราคาข้าวสาลีปรับลดลง โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 14 เมษายน 2566 ข้าวสาลี รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2566 ราคาปิดอยู่ที่ 682.40 เซนต์/บุชเชล (เทียบเท่า 8.586 บาทต่อกิโลกรัม ณ THB34.243/USD)
ราคาถั่วเหลือง ทรงตัว กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้า ยืนราคา 24.00 บาทต่อกิโลกรัม คาดการณ์เพาะปลูกถั่วเหลืองในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงทรงตัว ด้านปริมาณส่งออกกากถั่วเหลืองจากประเทศบราซิลไปประเทศอื่น ๆ อยู่ในระดับที่ดีมาก ส่วนปริมาณซื้อในตลาดมีปริมาณไม่มาก เนื่องจากอยู่ในช่วงหยุดยาวเทศกาลอีสเตอร์
ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 14 เมษายน 2566 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 1,496.60เซนต์/บุชเชล (เทียบเท่า 18.830 บาทต่อกิโลกรัม ณ THB34.243/USD) และกากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม 2566 ราคาอยู่ที่ 467.80 454.30 เหรียญสหรัฐฯ/ชอตตัน (เทียบเท่า 17.112 บาทต่อกิโลกรัม ณ THB34.243/USD) ราคาปรับลดลง
หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ประกาศระดับสต๊อกถั่วเหลืองสหรัฐ 2565/66 คงที่เท่ากับเดือนที่ผ่านมาที่ 210 ล้านบุชเชล ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการปรับลดลงมาเหลือเพียง 198 ล้านบุชเชล อีกทั้งคาดการณ์ผลผลิตประเทศบราซิลปรับเพิ่มขึ้น 1 ล้านตัน เป็น 154 ล้านตัน จากปริมาณน้ำฝนที่ดีตลอดฤดูกาล ด้านสหรัฐสภาพอากาศมีปริมาณน้ำฝนต่อเนื่องช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นในดิน
สำหรับราคาปลาป่นทรงตัว โดยการประกาศโควตาจับปลาสำหรับฤดูกาลใหม่ของประเทศเปรู คาดว่าจะประกาศได้ภายในสัปดาห์นี้หลังจากช่วงหยุดยาวเทศกาลอีสเตอร์ ด้านราคารับซื้อปลาป่นในประเทศจีนยังคงสูงทรงตัว ขณะที่ปริมาณซื้อหน้าท่าเรือปรับตัวลดลง ส่วนสต๊อกหน้าท่าเรือยังคงปรับตัวขึ้น
สถานการณ์ปลาป่นในประเทศ ปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 53.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ทรงตัวที่กิโลกรัมละ 47.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 44.70 บาท
สำหรับปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 44.20 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 42.70 บาท
และสถานการณ์ราคาข้าวก็มีแนวโน้มทรงตัว ตลาดซื้อขายข้าวต่างประเทศสัปดาห์นี้ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพ เอฟ.โอ.บี. ยืนราคาที่ตันละ 520 เหรียญสหรัฐ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาทรงตัวที่ตันละ 451 เหรียญสหรัฐ
ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาทรงตัวที่ 16,000 บาทต่อตัน ขณะที่ปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ยืนราคา 13,700 บาท ต่อตัน
ราคาสินค้าปศุสัตว์หลังสงกรานต์
ทั้งนี้ ล่าสุดการรายงานสถานการณ์ราคาสินค้าปศุสัตว์ของซีพีเอฟระบุว่า สินค้าต่าง ๆ ทั้งหมด หมู ไก่ และไข่ไก่ มีแนวโน้มทรงตัว
โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ทรงตัว โดยราคาสุกรขุนอยู่ที่ 84-88 บาทต่อกิโลกรัม ด้านลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 2,200 บาท (บวก/ลบ 84)
สภาวะการค้าสุกรขุนทุกพื้นที่ราคายืนแข็ง เทศกาลท่องเที่ยวและสงกรานต์เป็นปัจจัยบวกต่อความต้องการบริโภค การคาดการณ์ต้นทุนไตรมาสที่ 2/2566 น่าจะย่อตัวช่วงปลายไตรมาสตามต้นทุนลูกสุกรพันธุ์ที่ปรับลดลง
เช่นเดียวกับราคาไก่เนื้อ ซึ่งทางสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ประกาศราคาแนะนำไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม ที่กิโลกรัมละ 40 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 11.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 28.00 บาท
และเครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ยืนราคาแนะนำ “ไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม” เกษตรกร ที่ฟองละ 3.60 บาท