CPF เดินหน้าถ่ายทอดระบบการเลี้ยงสัตว์น้ำสมัยใหม่ ตามหลัก CARE Model ช่วยสร้างความสำเร็จเกษตรกรในการเลี้ยงปลาทับทิม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับความปลอดภัยอาหารเพื่อผู้บริโภค
ดร.ศิรีรัศมิ์ พรเลิศนภาดล เจ้าของ “อัครินทร์ ฟาร์ม” ใน จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า อัครินทร์ ฟาร์ม มีบ่อเลี้ยงปลาทับทิมรวม 30 บ่อ บนพื้นที่ทั้งหมด 140 ไร่ เป็นหนึ่งในฟาร์มเลี้ยงปลาทับทิมที่ นำหลัก CARE Model มาใช้ตั้งแต่ปี 2563 ทั้งการออกแบบโครงสร้างฟาร์ม และการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการเลี้ยง ทำให้เกษตรกรสะดวกขึ้น ง่ายต่อการบริหารและลดการใช้แรงงาน โดยเน้นความปลอดภัยของอาหารและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
‘อัครินทร์ ฟาร์ม’ นำเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการเลี้ยง เช่น การให้อาหารอัตโนมัติ ลดการสูญเสียอาหารและของเสีย ช่วยให้การจัดการฟาร์มง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังใช้ระบบโปรไบโอติก ฟาร์มมิ่ง ที่ใช้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์นำไปใส่ในน้ำเลี้ยงและอาหาร ควบคู่ไปกับการเลี้ยงระบบ CARE ทำให้ปลาแข็งแรง โตไว เนื้อมากและมีสุขภาพที่ดีตลอดการเลี้ยง จึงช่วยลดการใช้ยาในการรักษา ทำให้ผลิตภัณฑ์ปลาทับทิมของ CPF ไม่มีสารตกค้าง
“การเลี้ยงปลาทับทิมในระบบ CARE ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปลาเจริญเติบโตได้ดีและสุขภาพที่ดี มีอัตรารอดสูงถึง 90% และให้ผลผลิตแน่นอน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการเลี้ยงแบบเก่าที่ได้ผลผลิตต่อไร่ จาก 1 – 2 ตัน ต่อไร่ เป็น 12-13 ตัน ต่อไร่ ที่สำคัญยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้านความปลอดภัย ไร้สารตกค้าง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ดร.ศิรีรัศมิ์ กล่าว
ด้าน คุณวิโรจน์ ยุทธยงค์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจสัตว์น้ำ CPF กล่าวว่า ระบบ CARE Model ประกอบด้วย C-Consumer Need คือ การผลิตที่ใส่ใจความต้องการของผู้บริโภค A-Achieve easily and consistently ระบบที่ง่ายต่อการเลี้ยง สามารถผลิตได้อย่างต่อเนื่อง R-Reliable System ผลผลิตมีคุณภาพและแน่นอน และ E-Environmental Friendly ระบบการเลี้ยงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยประยุกต์ใช้นวัตกรรมการจัดการฟาร์มและเทคโนโลยีทันสมัย มีระบบการป้องกันโรคที่ดี ช่วยให้ผลผลิตคุณภาพดี รวมถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่ดี มีคุณภาพ ไร้สารตกค้างและมีคุณค่าทางโภชนาการ รวมถึงตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาได้ทั้งหมด
ฟาร์มระบบ CARE นี้ ยังให้ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด บริษัทฯ ออกแบบโดยใช้หลักการที่ชื่อว่า “Gravity Flow” จัดผังระบบฟาร์มให้มีการลดหลั่นกันไป ตั้งแต่บ่อน้ำพร้อมใช้ บ่อเลี้ยง บ่อตกตะกอน และบ่อปรับปรุงน้ำให้สะอาดด้วยพืช นอกจากนี้ ยังมีระบบน้ำหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงช่วยให้ฟาร์มใช้น้ำน้อยกว่าการเลี้ยงโดยทั่วไปถึง 80% ลดโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ฟาร์มจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม่ปล่อยของเสียจากฟาร์มออกสู่ภายนอกด้วย
นอกจากนี้ ผลผลิตปลาทับทิมจากระบบ CARE ยังผ่านการคัดขนาดปลาอัตโนมัติ ผ่านการแปรรูปและตัดแต่งในรูปแบบปลาสด อยู่ในบรรจุภัณฑ์สูญญากาศทันสมัย ช่วยรักษาคุณภาพ คงความสด สะอาดได้นานขึ้น พร้อมมีฉลากชัดเจนที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงฟาร์มเลี้ยง เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค