บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตั้งเป้าขยายกำลังผลผลิตไข่ไก่จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ใช้กรง (Cage Free) ปีละ 30% สะท้อนความมุ่งมั่นส่งมอบสินค้าอาหารที่มีคุณภาพสูง ถูกสุขอนามัย ผลิตจากกระบวนการผลิตใช้เทคโนโลยีทันสมัย ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ได้รับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์แก่ผู้บริโภค ตอบรับความต้องการระบบการผลิตอาหารที่รับผิดชอบต่อสังคม
คุณสมคิด วรรณลุกขี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มใส่ใจกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และมาจากกระบวนการผลิตที่รับผิดชอบต่อหลักสวัสดิภาพสัตว์ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจไก่ไข่ของซีพีเอฟมีความตั้งใจพัฒนาและยกระดับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีคุณภาพดี สะอาด ปลอดภัย และมีการปฏิบัติต่อสัตว์ภายในห่วงโซ่อุปทานอย่างมีมนุษยธรรม ในราคาที่สมเหตุสมผล สนับสนุนความต้องการสินค้าไข่ไก่ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ตลอดจนคู่ค้าธุรกิจ โดยซีพีเอฟ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตไข่ไก่ที่มาจากการเลี้ยงแบบไม่ใช้กรงในโรงเรือน (Cage Free) ในแต่ละปีร้อยละ 30 เทียบจากปีฐาน พ.ศ. 2563 ที่มีกำลังผลิตรวม 12 ล้านฟอง ตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืน CPF 2030 Sustainability in Action
“ในปีนี้ซีพีเอฟประเทศไทย โดยฟาร์มวังสมบูรณ์ ที่จังหวัดสระบุรี สามารถผลิตไข่ไก่ Cage Free ได้ตามเป้าหมายจำนวนกว่า 20 ล้านฟอง และมีแผนขยายกำลังผลิตเป็น 23 ล้านฟองในปี 2566 นอกจากนี้ กิจการในต่างประเทศของซีพีเอฟได้เข้ามาเรียนรู้และนำแนวทางของประเทศไทยไปพัฒนาการเลี้ยงไก่ไข่ Cage Free เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคในประเทศดังกล่าวอีกด้วย” คุณสมคิดกล่าว
สำหรับฟาร์มวังสมบูรณ์ จังหวัดสระบุรี เป็นฟาร์มไก่ไข่แห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์มไก่ไข่แบบไม่ใช้กรง (Cage Free) ของกรมปศุสัตว์ ซึ่งประยุกต์มาตรฐานของสหภาพยุโรปมาปรับใช้ พร้อมกับการคัดเลือกสายพันธุ์แม่ไก่ไข่ที่ดี เลี้ยงด้วยอาหารโปรไบโอติก และมีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์ม ช่วยให้แม่ไก่ไข่สุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี แข็งแรงสุขภาพดี ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ Cage Free ของซีพีเอฟ ปลอดการใช้ยาปฏิชีวนะตลอดห่วงโซ่การผลิต
ปัจจุบัน ฟาร์มวังสมบูรณ์ มีโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่อยู่ 12 โรงเรือน ลงเลี้ยงแม่ไก่ไข่ในความหนาแน่นไม่เกิน 9 ตัวต่อตารางเมตร เพื่อให้แม่ไก่แสดงพฤติกรรมได้อย่างอิสระ ในแต่ละโรงเรือนมีการเสริมสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น คอนเกาะ พื้นที่ทรายสำหรับไซร้ขน เป็นต้น รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพและสุขภาพสัตว์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทันสมัยแบบ Smart Farm ปรับกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ ลดการปนเปื้อนจากการเข้าไปในโรงเรือนของคนทำงาน ขณะเดียวกันซีพีเอฟยังมีการตรวจประเมินการดำเนินงานของฟาร์มเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความมั่นใจไข่ไก่ Cage Free มีกระบวนการผลิตได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกฟอง
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ Cage Free ของซีพีเอฟยังได้รับความไว้ใจจากผู้บริโภค และพันธมิตรคู่ค้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ร้านเจ๊ไฝ สตรีทฟู้ดชื่อดังระดับโลก โมโม่พาราไดซ์ ร้านชาบู-สุกี้สไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง รวมทั้งโรงแรมชั้นนำที่มีปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ Cage Free เพิ่มขึ้นทุกปี
ที่มา PR CPF