5 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) ซึ่งปี 2021 นี้ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme : UNEP) ได้กำหนดแนวทางรณรงค์สู่ “ทศวรรษแห่งการฟื้นฟูระบบนิเวศ” (The UN Decade of Ecosystem Restoration) รวมพลังทั่วโลกอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ภายใต้ปัจจัยท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Chang) และการแพร่ระบาดของโควิด-19 คุณวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน CPF กล่าวว่า บริษัทฯ ได้กำหนดแผนปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการมุ่งสู่องค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำ ประกอบด้วย 6 กลยุทธ์ คือ
1.การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต มีเป้าหมายลดปริมาณการใช้พลังงานต่อหน่วยการผลิต 15% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 ภายในปี 2568
2.ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบันสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ คิดเป็น 26% ของการใช้พลังงานทั้งหมด
3.พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ผลิตภัณฑ์ Meat Zero นวัตกรรมเนื้อจากพืช ทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ นวัตกรรมอาหารสัตว์รักษ์สิ่งแวดล้อม
4.วางแผนระบบโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ
5.ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหารในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นศูนย์ ภายในปี 2573
และ 6.การแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน ด้วยการจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ เช่น ใช้วัตถุดิบข้าวโพดจากแหล่งผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จัดหาวัตถุดิบปลาป่นสำหรับการผลิตอาหารสัตว์น้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะต้องมาจากแหล่งที่ถูกกฎหมาย และยึดมาตรฐานสากล สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาของวัตถุดิบได้ รวมทั้งการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการดำเนินโครงการ อนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟู พื้นที่ที่ป่าต้นน้ำและป่าชายเลน เพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ ซึ่งดำเนินการไปแล้วมากกว่า 10,000 ไร่
CPF มุ่งมั่นบรรเทาผลกระทบและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยยึดเป้าหมายและดำเนินงานตามกลยุทธ์ความยั่งยืน พร้อมทั้งนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ทำให้ในปี 2563 สามารถบรรลุเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนแนวทางอนุรักษ์โลก อาทิ ดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลดลง 36% เทียบกับปีฐาน 2558 นำน้ำกลับมาใช้ใหม่หรือใช้ซ้ำคิดเป็น 42% ของการใช้น้ำทั้งหมด ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีคุณสมบัติสามารถใช้ซ้ำหรือนำไปผลิตเป็นสินค้าใหม่ หรือย่อยสลายได้ 99.9% รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 580,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิต
“โลกกำลังเผชิญวิกฤตด้านสุขภาพครั้งใหญ่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมโลกเดินไปข้างหน้าช้าลง เราทุกคนจึงต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อฟื้นสมดุลทางธรรมชาติให้กลับคืนมา ซึ่งจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาวให้กับทุกชีวิตบนโลกนี้อย่างยั่งยืน” คุณวุฒิชัย กล่าว
Cr.PR CPF