มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท พึ่งพาตนเอง สู่ความยั่งยืน ตามรอยศาสตร์พระราชา
หลักการพึ่งพาตนเอง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ ถือเป็นแนวทางสำคัญในการดำเนินชีวิตและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน หลักการนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล ชุมชน หรือประเทศชาติ
ศูนย์การเรียนรู้สวนเทพหยา ต้นแบบการพึ่งพาตนเอง หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนการน้อมนำหลักการพึ่งพาตนเองมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม คือ ศูนย์การเรียนรู้สวนเทพหยา อ.ปากรอ จ.สงขลา ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท โดยมีนาย ชาญวิทย์ รัตนชาติ เป็นหัวหน้าในการดำเนินโครงการ
ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ได้ใช้ ศาสตร์พระราชา และ หลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ โดยเน้นการทำเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เป้าหมายสำคัญคือการพึ่งพาตนเองในทุกด้าน เช่น การผลิตอาหาร การจัดการน้ำ และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะอาชีพ การตลาด และการสร้างเครือข่ายในชุมชน
นอกจากนี้ สวนเทพหยา ยังมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เกษตรกร เยาวชน และคนในชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับชุมชนในระยะยาว
พึ่งพาตนเอง หลักการที่ปรับใช้ได้ในทุกมิติ หลักการพึ่งพาตนเองไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาคการเกษตร แต่สามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายภาคส่วน อย่าง ภาคอุตสาหกรรม ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรจากภายนอกและพัฒนาการผลิตอย่างยั่งยืน ภาคบริการ ช่วยสร้างความยั่งยืนในธุรกิจด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และ ภาคการศึกษา ช่วยปลูกฝังแนวคิดการพึ่งพาตนเองให้เยาวชนผ่านการเรียนรู้และลงมือทำ
ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง การน้อมนำหลักการพึ่งพาตนเองมาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การปลูกผักสวนครัว การจัดการค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ จะช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิต ลดการพึ่งพาภายนอก และทำให้เราสามารถเผชิญความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแข็งแกร่ง
หลักการพึ่งพาตนเอง เป็นมากกว่าแนวทางการดำเนินชีวิต แต่เป็นรากฐานสำคัญของการสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน หากเรานำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการนำเนินชีวิตให้เกิดความเหมาะสมในแต่ละบุคคล ก็จะสามารถสร้างอนาคตที่ดีให้กับตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติต่อไปได้อย่างยั่งยืน
