เครือเจริญโภคภัณฑ์ เร่งปลูกต้นไม้กักเก็บคาร์บอนโดย 2 ผู้นำรุ่นใหม่ ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันด้านความยั่งยืน ผนึกกำลังร่วมกับภาคีเครือข่ายและชุมชน ดูแลสิ่งแวดล้อมพร้อมสร้างอาชีพ และสร้างรายได้กลับสู่ชุมชน
ตลอดระยะเวลาหลายปีก่อเกิดการพัฒนา จนในปี 2564 โครงการสบขุ่นโมเดล ที่บ้านสบขุ่น อ.ท่าวังผา จ.น่าน ได้รับการรับรองตามมาตรฐานและได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก หรือ LESS (Low Emission Support Scheme) พร้อมผลักดันโครงการอื่น ๆ เข้าร่วม เพื่อให้เกิดกิจกรรมการลดก๊าซเรือนกระจก สร้างความตระหนักรู้แก่องค์กรและชุมชน ในการมีส่วนร่วมและดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไปด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หัวหน้าทีมคนสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่ต้นน้ำน่าน กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการ LESS ถือได้ว่าเป็นการแสดงผลที่เป็นรูปธรรมในสิ่งที่เราได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 6 ปี ตั้งแต่ปี 2558 ที่ส่งเสริมการปลูกกาแฟ พร้อมกับปลูกไม้ป่าเพื่อเป็นไม้ร่มเงา ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ ส่งผลต่อผลผลิตและคุณภาพของกาแฟ การที่กาแฟเจริญเติบโตสมบูรณ์ ก็แสดงว่า ต้นไม้ป่าที่ปลูกก็ต้องเจริญเติบโตไปด้วยกัน “ซีพีมุ่งส่งเสริมชุมชนใน 3 มิติ ได้แก่ พลิกฟื้นผืนป่า พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างชุมชนยั่งยืน ผ่านกระบวนการส่งเสริมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ โดยมี เจ้าหน้าที่เครือซีพีคอยเป็นพี่เลี้ยง รวมทั้งประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน โดยถือประโยชน์ของชาวบ้านเป็นที่ตั้ง” ในปีนี้ วางเป้าหมายการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ จ.น่าน ประมาณ 50,000 ต้น และมีแผนในการส่งพื้นที่เข้าร่วมโครงการ LESS อีก 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่บ้านทุ่งใหม่ อ.ปัว และพื้นที่บ้านนาบง อ.บ่อเกลือ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจนับต้นไม้ในโครงการและคำนวณค่าการกักเก็บคาร์บอน เพื่อส่งเข้าโครงการ LESS ต่อไป
ทางด้านคุณนนท์ นาคะเสถียร ผู้จัดการทั่วไปด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ อีกหนึ่งผู้นำสำคัญขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืนในพื้นที่ต้นน้ำปิง วัง และยม กล่าวว่า เครือฯ ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมดำเนินงานด้านอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมกับภาคีเครือข่าย และประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ชุมชนมีโอกาสได้รับการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน เทคโนโลยีฯ ก่อให้เกิดการสร้างงานและรายได้ มุ่งพัฒนาศักยภาพจากการดำเนินกิจกรรมที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในปัจจุบันเราได้พยายามขับเคลื่อนโครงการที่อยู่ในความดูเเลให้เข้าร่วมโครงการ LESS ทั้งหมดทุกโครงการ เช่น โครงการโรงเรียนกาแฟบ้านกองกาย และโครงการเกษตรยั่งยืนแม่วากโมเดล ที่อยู่ในขั้นตอนของการจัดทำข้อมูล เพื่อขอการรับรอง Less และโครงการอื่น ๆ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อเข้าร่วม
นอกจากผู้นำภายในเครือซีพีแล้ว ผู้นำชุมชนอย่าง คุณสมบูรณ์ นามวงค์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสบขุ่น อ.ท่าวังผา จ.น่าน ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันการทำงานภายในชุมชน เผยว่า การร่วมงานกับซีพีสามารถช่วยชุมชนได้มีพืชทางเลือก มีรายได้ในครัวเรือน คนในชุมชนมีความหวังเพิ่มขึ้น “ชุมชนปลอดภัยจากไฟป่าไม่มีหมอก ควันอากาศไม่เป็นพิษมองไปรอบ ๆ หมู่บ้านก็เริ่มมีป่าไม้ที่มีสีเขียว ในฐานะผู้นำชุมชนอยากให้ชุมชนร่มรื่น”
นอกจากนี้คุณบุญสี กาไว ผู้ใหญ่บ้านแม่วาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เผยว่า การร่วมงานกับเครือฯ เป็นแนวทางที่ดีที่จะช่วยชุมชนเรื่องอาชีพและสร้างรายได้ ตั้งเป้าวางแผนการจัดการภายในชุมชนอย่างเป็นระบบให้มากขึ้นในอนาคต “เป็นเรื่องดีที่ชุมชนได้สร้างพื้นที่สีเขียว แต่ยังไม่มีการรับรองที่มีความเชื่อถือ ถ้าได้เข้าร่วมโครงการ LESS จะได้รู้ว่าพื้นที่ของเราสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้จริง” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของชุมชน