13 เมษายน เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ตระหนักถึงสถานการณ์ของสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย จึงได้ขับเคลื่อน”โครงการบ้านชื่นสุข” จ.เชียงราย เพื่อสนับสนุนเสริมสร้างพลังกายและพลังใจให้กับผู้สูงอายุ พร้อมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้ผู้สูงอายุ ก้าวข้ามผ่านความกลัว ความเศร้า และความทุกข์ใจเกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าในตนเอง สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
คุณธิดา สำราญใจ ผู้บริหารด้านพัฒนาเด็กและเยาวชน มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า ผู้สูงอายุเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติ เพราะเป็นผู้ที่พร้อมไปด้วยความรู้ ประสบการณ์ คุณวุฒิ และภูมิปัญญา การทําให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างมีความสุขในบั้นปลาย ผู้สูงอายุต้องมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ ได้รับเกียรติได้รับการยอมรับ การเห็นคุณค่า ทั้งจากครอบครัวและสังคม เกิดเป็นความภาคภูมิใจ ในขณะเดียวกัน “ผู้สูงอายุ” เป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลง เสื่อมโทรมถดถอยในด้านต่างๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจมีโรคภัยที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง โครงการบ้านชื่นสุข จึงเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้สูงอายุ ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้สูงอายุรับรู้ได้ว่าตนเองยังมีความสำคัญต่อครอบครัว ยังมีคนห่วงใย และดูแล สร้างความอบอุ่นใจให้พวกท่าน พร้อมที่จะต่อสู้กับชีวิตในวัยสูงอายุได้ดีขึ้น
ครูอัญชลี ไก่งาม อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าแดง ปัจจุบันได้เข้ามาเป็นบุคคลากรอาสา ดูแลโครงการบ้านชื่นสุขร่วมกับมูลนิธิฯ กล่าวว่า โครงการบ้านชื่นสุข เป็นโครงการฯ ที่สร้างความสุขให้แก่ผู้สูงอายุอย่างแท้จริง ” ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกแก่อย่างสง่า ชราอย่างมีคุณภาพ” พึ่งพาตนเองได้ และไม่เป็นภาระของสังคม อย่างน้อยโครงการฯ ก็ได้ช่วยแบ่งเบาภาระทั้งภาครัฐ และลูกหลานที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว
นอกจากนี้ครูอัญชลี ยังกล่าวว่า แม้ผู้สูงอายุบางคนจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่ก็ยังต้องการความรัก การเอาใจใส่จากครอบครัวและลูกหลานในบางครั้ง จึงอยากเชิญชวนให้ลูกหลานกลับไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่บ้านกันบ้าง ไม่ต้องมีเงินทองมากมายมาให้ เพียงแต่มาเยี่ยม มาพูดคุย ให้กำลังใจ อยู่เป็นเพื่อนท่านบ้าง ก็ถือเป็นการสร้างความสุขในบั้นปลายให้แก่ท่านแล้ว