เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World จากเครือซีพี เดินหน้าลุยแคมเปญ #Fightหมอกควัน พลังคนรุ่นใหม่ เพื่ออากาศสะอาด… เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า ลงพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ปลุกพลังรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างอนาคตสะอาดไร้หมอกควัน

เยาวชนคนรุ่นใหม่จากโครงการ One Young World เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ภายใต้โครงการ Young Transformative Leaders ได้แก่ คุณภัทราภรณ์ พลอยวิเลิศ จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณพาณิภัด หล่อวณิชย์ จาก บมจ.ซีพี ออลล์ คุณธนกร ซื่อสัตย์พาณิชย์ จาก บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร และ คุณนันทิช อัคนิวรรณ จาก บมจ.ซีพีแลนด์ ลงพื้นที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 19 – 20 ธันวาคม 2567 ร่วมเดินหน้าสานต่อแคมเปญ “#FIGHTหมอกควัน: พลังคนรุ่นใหม่ เพื่ออากาศสะอาด…เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” ด้วยเป้าหมายสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเยาวชนและชุมชนในพื้นที่ พบปะผู้นำภาครัฐ การศึกษา และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อหารือ เข้ารับองค์ความรู้ และรณรงค์เชิญชวนแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ  เพื่อปลุกพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างอากาศสะอาด และพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

เริ่มต้นของภารกิจวันแรก ด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้นำเยาวชนในพื้นที่อำเภอเวียงแหง ผ่านกิจกรรม “ค่ายผู้นำเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม” ภายใต้โครงการ “ซีพี ร้อยรักษ์โลก ป่าปลอดเผา จ.เชียงใหม่” หรือ ENVI Camp for Young Talent: LESS is More | Carbon Credit โดยทีมเยาวชน One Young World จากเครือซีพี ได้นำความรู้และประสบการณ์จากเวทีประชุมระดับโลก One Young World 2024 ที่ประเทศแคนาดา มาถ่ายทอดให้กับเยาวชนในพื้นที่ ผ่านกิจกรรมที่สร้างความเข้าใจในปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างลึกซึ้ง การวัดการเจริญเติบโตและการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ การเรียนรู้ปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควัน PM 2.5 การผลิตปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการปลูกผักเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยสร้างความตระหนักรู้ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการปลูกฝังแนวคิดการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต

จากนั้น 4 ผู้เยาวชน One Young World ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนอย่างใกล้ชิด ผ่านการพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้นำชุมชนและเกษตรกร พร้อมร่วมกิจกรรม “ป่าปลอดเผา” (Zero Forest Burning) ในพื้นที่ป่าชุมชน อ.เวียงแหง โดยมีเป้าหมายลดเชื้อเพลิงธรรมชาติที่ก่อให้เกิดไฟป่า โดยใบไม้แห้งถูกนำมาใช้ประโยชน์ด้วยการแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ไม่พลิกกลับกอง ตามสูตร “วิศวกรรมแม่โจ้ 1” โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กิจกรรมนี้นอกจากช่วยลดต้นเหตุของปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมคืนรายได้กลับสู่ชุมชน ผ่านการบริหารจัดการกองทุนป่าชุมชนอย่างยั่งยืน

ภารกิจวันที่สอง ของ 4 ของเยาวชน One Young World เริ่มต้นด้วยการเดินทางสู่ จุดสกัดเวียงแหง อุทยานแห่งชาติผาแดง ตำบลแสนไห อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมพิธีเปิดโครงการ “ซีพี ร้อยรักษ์โลก ป่าปลอดเผา จ.เชียงใหม่” อย่างเป็นทางการ โดยมี คุณขวัญชัย เนื่องจำนงค์ นายอำเภอเวียงแหง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ได้แก่ ว่าที่พันตรีนรินทร์ ปิ่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่), ดร.แสนวสันต์ ยอดคำ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ คุณพิไลลักษณ์ พิชัยวัตต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึงตัวแทนส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ในงานยังมีการจัดแสดงผลงานเด่นจากโครงการ อาทิ การดำเนินงาน ป่าปลอดเผา (Zero Forest Burning) โครงการ ค่ายผู้นำเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม การผลิตปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่พลิกกลับกองตามสูตร วิศวกรรมแม่โจ้ 1 และวัสดุปรับปรุงดิน ฮักเวียงแหงที่พัฒนาโดยเครือข่ายป่าชุมชนในอำเภอเวียงแหง

ในโอกาสนี้ นายอำเภอเวียงแหงได้กล่าวให้กำลังใจแก่เครือข่ายป่าชุมชนและหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทำพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ และมอบเกียรติบัตรแก่ตัวแทนเครือข่ายชุมชนและผู้นำเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งมอบวัสดุปรับปรุงดินให้แก่เครือข่ายป่าชุมชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูป่าและลดปัญหาหมอกควัน

ในระหว่างงาน ทีมเยาวชน One Young World จากเครือซีพีได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างเครือข่ายกับผู้นำส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และเกษตรกรในพื้นที่อำเภอเวียงแหง พร้อมทั้งอภิปรายและแบ่งปันความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในอนาคต

คุณภัทราภรณ์ พลอยวิเลิศ จากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เผยความรู้สึกถึงการได้เข้าร่วมแคมเปญ #FIGHTหมอกควัน ว่ารู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือโอกาสสำคัญในการร่วมมือกับเยาวชนและชุมชนในพื้นที่เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ความมุ่งมั่นของทุกคนในการร่วมแรงร่วมใจเพื่อสร้างอากาศที่สะอาดและอนาคตที่ดีกว่า ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนสังคมไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้จริง

หนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือการร่วมค่าย “ENVI Camp for Young Talent: LESS is More | Carbon Credit” ที่จัดกิจกรรมให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเวียงแหงวิทยาคม ซึ่งมีการเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คุณค่าของป่าไม้ และการใช้เศษใบไม้หรือวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาทำปุ๋ยเพื่อลดการเผาในพื้นที่การเกษตร

นอกจากนี้ ที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีโครงการ ซีพี ร้อยรักษ์โลก ป่าปลอดเผาที่มุ่งลดปริมาณเศษใบไม้ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของไฟป่า โดยการระดมความร่วมมือจากชุมชนให้ช่วยกันเก็บเศษใบไม้ออกจากพื้นที่ป่า นำมาทำปุ๋ยด้วยองค์ความรู้ที่ได้รับจากอาจารย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปุ๋ยที่ได้ถูกนำกลับไปใช้ในแปลงเกษตรของชาวบ้าน สร้างทั้งรายได้และวัสดุปลูกสำหรับบำรุงพืชผล

การลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชาวบ้านไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานและการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้เห็นความตั้งใจของชุมชนที่อยากอนุรักษ์ป่าและป้องกันการเกิดไฟป่า ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มเติมให้กับชาวบ้านเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยผลักดันความสำเร็จของแคมเปญนี้ คุณภัทราภรณ์กล่าวทิ้งท้ายว่า การได้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้มั่นใจว่าเราจะสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศไทยได้จริงอย่างยั่งยืน

คุณพาณิภัด หล่อวณิชย์ จาก บมจ.ซีพี ออลล์  กล่าวแนวคิดภายใต้วิสัยทัศน์ของคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอ โดยเชื่อมโยงกับจุดมุ่งหมายของโครงการ One Young World และ Young Transformative Leaders ซึ่งนำไปสู่การริเริ่มโครงการ “Fight หมอกควัน เพื่ออากาศสะอาด เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” เพื่อรับมือกับปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ซึ่งเป็นความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลกในปีนี้

การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพูดคุยกับผู้นำส่วนราชการ ผู้นำภาคการศึกษา และผู้นำชุมชน เพื่อทำความเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาไฟป่าและการเผาในพื้นที่การเกษตร ข้อมูลที่ได้รับจะถูกนำมาจัดทำเป็นข้อเสนอและแผนปฏิบัติการ เพื่อเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

“เวียงแหง เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานของพวกเรา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เป็นจุดความร้อน (Hotspot) สูง การลงพื้นที่ทำให้เรารับทราบข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อการรณรงค์อย่างมาก หนึ่งในนั้นเราพบว่า การเผาไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นปัญหาปากท้อง ถ้าเราจะรณรงค์ให้เกษตรกรลดเลิกการเผา เราต้องมีแผนรองรับ จะทำอย่างให้เขาเปลี่ยนผ่านการเกษตรแบบเดิม สู่การเกษตรแบบใหม่ได้ และที่สำคัญคือความเข้มแข็งของคนในชุมชนเอง ที่จะหาวิธีป้องกันการเผา ทั้งเผาป่า และพื้นที่การเกษตร” คุณพาณิภัดกล่าว

ด้าน คุณธนกร ซื่อสัตย์พาณิชย์ จาก บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวถึงประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการ One Young World ว่าได้รับแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับการขับเคลื่อนความยั่งยืนในระดับโลก ซึ่งได้นำมาปรับใช้ในแคมเปญ “Fight หมอกควัน เพื่ออากาศสะอาด เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่าโดยรู้สึกภูมิใจที่เครือซีพีให้โอกาสในการเรียนรู้และลงมือทำอย่างจริงจัง

ตั้งแต่การอบรมในสำนักงานจนถึงการลงพื้นที่จริง ได้มีโอกาสรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากคนในพื้นที่ รวมถึงเรียนรู้จากต้นแบบป่าชุมชน ซึ่งมีการบริหารจัดการอนุรักษ์ป่าและควบคุมไฟป่าอย่างเป็นระบบ ประสบการณ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาแคมเปญต่อไป

คุณธนกรยังกล่าวอีกว่า กิจกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างเยาวชนและชุมชน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า ความพยายามร่วมกันนี้ทำให้มั่นใจว่าเป้าหมายในการสร้างอากาศสะอาดไม่ใช่เพียงความหวัง แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง ทั้งหมดนี้เป็นแรงผลักดันที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน

ขณะที่ คุณนันทิช อัคนิวรรณ จาก บมจ.ซีพีแลนด์ กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงหลังจากได้เข้าร่วมโครงการ One Young World ที่แคนาดา จนถึงปัจจุบันกับแคมเปญ “Fight หมอกควัน เพื่ออากาศสะอาด เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” โดยระบุว่า การได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภาวะโลกร้อน (Global Warming) เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ผลักดันให้นำความรู้กลับมาสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในประเทศไทย

“การได้แลกเปลี่ยนความคิดและสร้างเครือข่ายกับผู้ที่สนใจในประเด็นเดียวกันจากทั่วโลก ทำให้ผมอยากผลักดันสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทย เราต้องทำให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยแนวทางที่วัดผลได้ เช่น การลดการเผาป่า หรือการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับในผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผาเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่จะดีขึ้นได้หากเราร่วมมือกัน”

ว่าที่พันตรีนรินทร์ ปิ่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) กล่าวว่า “รู้สึกยินดีและประทับใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นพลังและความมุ่งมั่นของเยาวชนคนรุ่นใหม่จากโครงการ One Young World ของเครือซีพี ซึ่งเปี่ยมไปด้วยศักยภาพและความตั้งใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม การที่เยาวชนเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมในแคมเปญ ‘Fight หมอกควัน เพื่ออากาศสะอาด เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่าถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในพื้นที่

ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังของกลุ่มเยาวชนเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงพลังที่สามารถผลักดันโครงการนี้ให้ก้าวหน้าและสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยั่งยืน ผมมั่นใจว่าการร่วมมือกันระหว่างเยาวชน เครือข่ายชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ จะช่วยขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหมอกควันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมในอนาคต

ขอชื่นชมและสนับสนุนทุกความพยายามในครั้งนี้ และหวังว่าพลังของคนรุ่นใหม่จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการสร้างอากาศสะอาดและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนและประเทศไทยในอนาคต”

ในส่วนของ คุณเฉลิมชัย โปธา ประธานแหล่งเรียนรู้เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชุมชนบ้านป่าไผ่ กล่าวว่า “รู้สึกยินดีและภูมิใจที่ได้ต้อนรับเยาวชนจากโครงการ One Young World ของเครือซีพีที่มาเยี่ยมชมและเรียนรู้จากชุมชนของเรา การที่เยาวชนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสเข้าใจวิถีชีวิตของคนในชุมชนและการทำงานร่วมกับธรรมชาติ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะพวกเขาจะสามารถนำประสบการณ์เหล่านี้ไปเป็นแรงผลักดันในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมและสิ่งแวดล้อมได้

การเรียนรู้จากป่าชุมชนของเราไม่ใช่แค่เรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างความยั่งยืนในชุมชน ซึ่งเยาวชนจากโครงการนี้ได้เห็นถึงการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและธรรมชาติ และรู้จักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ การที่พวกเขานำความรู้เหล่านี้กลับไปใช้ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมุมมองและการปฏิบัติตัวต่อสิ่งแวดล้อ พลังของเยาวชนจะสามารถผลักดันการอนุรักษ์ธรรมชาติและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนในอนาคตได้อย่างแน่นอน และผมก็หวังว่าจะได้เห็นความร่วมมือระหว่างชุมชนของเรากับเยาวชนเหล่านี้ต่อไปในอนาคต

ตลอดการเดินทางพบปะกับภาคส่วนต่างๆ ผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่จากโครงการ One Young World เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมประกาศความร่วมมือใน 3 ข้อสำคัญ ได้แก่ 1. หยุดการเผาในพื้นที่การเกษตร และสร้างเครือข่าย FIGHT Team ในภาคเหนือ ร่วมกับชุมชนในการแก้ไขปัญหาไฟป่า 2. ส่งเสริมการตรวจสอบย้อนกลับในภาคเอกชน และผลักดันให้สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมมาจากแหล่งผลิตที่ปลอดการเผา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถสนับสนุนสินค้าที่รักษาสิ่งแวดล้อม และ 3. ระดมทุนเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันในจังหวัดเชียงใหม่

หลังจากนี้ เยาวชนจากโครงการ One Young World เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จะเดินสายพบปะและรณรงค์แคมเปญในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มเติม ร่วมกับตัวแทนจากคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง