คุณจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ และการประกอบอาชีพของคนไทยเป็นวงกว้าง
เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยคุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ มีความห่วงใยและตระหนักถึงคนไทยที่ประสบภาวะยากลำบากในยามนี้ จึงมีนโยบายให้เครือฯ และบริษัทในเครือฯ ร่วมกันร้อยเรียงความดีสู่สังคม ด้วยการส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน
โดยสร้างอาชีพใหม่ “ฝากเลี้ยงกล้าไม้” ผ่านโครงการ “ซีพีร้อยรักษ์โลก” ที่เครือฯและบริษัทในเครือจะต้องดำเนินการปลูกต้นไม้เพื่อลดโลกร้อน ซึ่งตั้งเป้าหมายการปลูกไว้ที่ 10 ล้านต้นภายในปี 2573 ตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์
ทั้งนี้ ได้นำร่องดำเนินโครงการฝากเลี้ยงกล้าไม้ใน 3 ชุมชน จังหวัดชลบุรี ได้แก่ ชุมชนในตำบลห้วยใหญ่ ตำบลนาจอมเทียน และตำบลเขาชีจรรย์ ซึ่งได้มีการจ้างงานกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งกลุ่มผู้ตกงาน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพประมง กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สร้างสาธารณะประโยชน์แก่สังคม รวมทั้งสิ้น 2,000 ครอบครัว
ชาวบ้านในชุมชนจะได้ค่ารับฝากเลี้ยงกล้าไม้ครอบครัวละ 1,000 ต้น มีรายได้รวม 15,000 บาท/ครอบครัวตลอดระยะเวลาฝากเลี้ยง 3 เดือน ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เครือฯ ได้ช่วยเหลือสังคมในยามยากลำบาก เป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
สำหรับกล้าไม้ที่ฝากเลี้ยง ประกอบด้วย 1.ไม้ป่าเศรษฐกิจ ได้แก่ ต้นแดง ต้นพยูง ต้นประดู่ป่า ต้นมะค่าโมง ต้นชิงชัน ต้นสักทอง ต้นพยอม ต้นยางนา ต้นเก็ดแดง ต้นแคนา 2.ไม้ท้องถิ่น/ไม้ป่าชายเลน ได้แก่ โกงกาง ลำพู ฝาดแดง/ฝาดขาว มะม่วงหิมพานต์ 3.ไม้ผลกินได้ ได้แก่ มะม่วง(น้ำดอกไม้) กล้วยน้ำว้า ขนุน ฝรั่ง ทุเรียน มะพร้าวน้ำหอม