คณะกรรมการวิชาการด้านเศรษฐกิจ มหกรรมนวัตกรรมบัวบาน 2021 ได้พิจารณาตัดสินผลงานนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจ ในรอบ Chairman Awards ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยในรอบนี้ได้เปิดโอกาสให้นวัตกรที่ผ่านเข้ารอบมานำเสนอผลงานนวัตกรรมต่อหน้าคณะกรรมการที่มาจากทั้งภายในเครือฯและภายนอกเครือฯ อาทิ รศ.ดรวิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ จุฬาฯ, คุณวิเชียร สุขสร้อย รองอำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ด้านเศรษฐกิจและสังคม, คุณสาวิตร สุทธิพันธุ์ Vice President Digital Transformation TOA Paint (Thailand), รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และคุณเจริญ แก้วสุกใส รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด โดยในปี้มีผลงานด้านเศรษฐกิจของนวัตกรจากเครือฯ ผ่านเข้ารอบรวม 63 ผลงาน จากทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ภาพรวมของการนำเสนอตลอด 3 วัน กรรมการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ปีนี้ผลงานของแต่ละกลุ่มธุรกิจมีความน่าสนใจและมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้และสามารถนำไปต่อยอดกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในเครือฯ หรือกลุ่มธุรกิจในต่างประเทศได้ โดยคุณสาวิตร สุทธิพันธุ์ กล่าวว่า “ในฐานะกรรมการจากภายนอกยอมรับว่าผลงานมีความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ รวมไปถึงในเรื่องของนวัตกรรมต่างๆ ผลงานที่นำเสนอสามารถนำไปใช้ได้จริงและส่งผลต่อสังคมโดยรวมได้ หากพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจจะเห็นผลงานเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไปมากขึ้น”
คุณสาวิตร ยังกล่าวอีกว่า หลายๆ โครงการที่นำมาเสนอหากมีการทำวิจัยร่วมกัน และมีการประสานเชื่อมโยงกันระหว่างสายงานต่างๆ ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมากและหากเครือฯ เปิดโอกาสให้นวัตกรได้มีโอกาสพูดคุยประสานความร่วมมือกันมากขึ้นนอกเหนือจากโครงการที่ทำขึ้นเฉพาะในบริษัทตนเอง จะทำให้เกิดการบูรณาการ และเกิดอิมแพ็คต่อธุรกิจของบริษัทมากขึ้น
ด้านคุณเจริญ แก้วสุกใส ซึ่งมีโอกาสเข้ามารับตำแหน่งกรรมการภายในเป็นปีแรก กล่าวว่า ผลงานที่ผ่านเข้ารอบมีความหลากหลาย ผลงานแต่ละกลุ่มส่วนใหญ่เป็นผลงาน cross functional ที่สามารถนำกลุ่มเด่นๆ มาเป็นองค์ความรู้ของเครือฯ และนำไปขยายผลได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มของเกษตรและอาหาร ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเครือฯ ได้อย่างมหาศาล
“ผลงานของทางด้านเกษตรและอาหาร มีความชัดเจนเพราะเราเป็นผู้นำทางด้านอาหารของโลกโดยเฉพาะ ไก่ กุ้ง และหมู ซึ่งหากคิดนวัตกรรมที่ดีได้ก็จะสามารถนำไปถ่ายทอดให้ที่อื่นได้ ขณะที่ผลงานของกลุ่มค้าปลีกก็มีหลายเรื่องที่โดดเด่น จนสามารถขยายออกไปได้ในภูมิภาคและทั่วโลก”
คุณเจริญ ยังได้ฝากถึงนวัตกรว่า ต้องมีความเข้าใจทั้งระบบ คือ ต้องทำงานร่วมกันตั้งแต่เรื่องของตลาด ลูกค้า โรงงาน การวิเคราะห์ทางด้านบัญชีการเงิน โดยต้องมีความเข้าใจ และสามารถคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมที่มีประโยชน์ สามารถนำไปถ่ายทอดให้แก่หน่วยงานอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
ขณะที่คุณฉัตรชัย วิไลรัตนสุวรรณ ให้ความเห็นว่า ภาพรวมในปีนี้มีผลงานที่น่าสนใจและหลากหลาย ส่วนใหญ่สะท้อนในเรื่องของความยั่งยืน และการขยายตัวของธุรกิจของเครือฯ ต่อไปในอนาคต รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานเพื่อให้มีการต่อยอดโครงการทางด้านเศรษฐกิจให้มีการเติบโต และเป็นอนาคตของตัวเศรษฐกิจและธุรกิจในเครือฯ ต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ฝากถึงนวัตกรในรุ่นต่อไปว่า “อยากให้ยึดหลักแนวคิดของท่านประธานอาวุโสที่กล่าวว่า เราพอใจวันเดียว ฉะนั้นเราจึงต้องคิด พัฒนา และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคิดต่อยอดโครงการต่างๆ และโครงการใหม่ๆ จงมีความจำเป็นเพราะโลกของเราทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด การที่เราคิดและพัฒนาต่อเนื่องจะทำให้บริษัทหรือเครือฯ ของเราเติบโตและมีการพัฒนาทันต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโครงการนวัตกรรมเศรษฐกิจนั้นมีหลายๆ โครงการที่นวัตกรรู้จักนำเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ มาใช้และพัฒนาต่อยอดได้ ดังนั้น นวัตกรจะต้องมองประเด็นให้ออกว่าสิ่งที่เราจะส่งโครงการเข้ามานั้นมีความโดดเด่นตรงไหน เพื่อป้องกันการส่งผลงานผิดเวที”
นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับ คุณไอริน รังสิไพบูลย์ จากหน่วยงานพัฒนาสินค้าเซเว่นอีเลฟเว่น บริษัท ซีพีแรม จำกัด หนึ่งในนวัตกรที่เข้ามานำเสนอผลงาน โดนนำเสนอโครงการข้าวเหนียวหมูทอดจากสิบเป็นหมื่น กล่าวว่า ก่อนที่จะเข้ามาถึงรอบนำเสนอผลงาน ทีมงานทุกคนเตรียมข้อมูลและเตรียมตัวอย่างเต็มที่ ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นและสนุกมาก และรู้สึกดีใจที่ได้เข้าร่วมกับโครงการที่มีประโยชน์ ทั้งนี้ คำถามที่เจอจากคณะกรรมการส่วนใหญ่ เน้นในเรื่องของสุขภาพเป็นสำคัญ ซึ่งตรงกับแนวคิดและโครงการที่กลุ่มของตนให้ความสำคัญ และตั้งใจที่จะพัฒนาต่อไปเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ