เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยสำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จ.น่าน ได้ให้ความสำคัญในมิติงานพัฒนาชุมชน ผ่านการร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มากขึ้น ยกระดับการเกษตรในจ.น่าน เชื่อมโยงตลาดอะโวคาโดให้มีช่องทางการจำหน่ายมากขึ้น และเกษตรกรได้รับราคาที่เป็นธรรม
โดยสนง.ด้านความยั่งยืนฯ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ผนึกกำลัง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. โดย โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงลุ่มน้ำน่าน ในการส่งเสริมงานพัฒนาชุมชนด้านการเกษตร ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรขุนกูน ที่ดำเนินธุรกิจอะโวคาโด พันธุ์บัคคาเนีย และพันธุ์บูธ7 โดยเล็งเห็นความสำคัญในพัฒนาและเพิ่มช่องทางตลาด จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) จำหน่ายผลผลิตผ่านช่องทางออนไลน์ CP All market ( LINE Official และ LINE OpenChat)
คุณบัญชา โชติกำจร ผู้อำนวยการ สำนักงานด้านความยั่งยืนฯ กล่าวว่า ในมิติงานพัฒนาชุมชน ได้ให้ความสำคัญในการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มธุรกิจในเครือซีพี รวมถึงเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนงานให้ได้เต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการปลูก จนถึงการจำหน่ายผลผลิต โดยมีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และในครั้งนี้ เครือซีพี สนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายอะโวคาโด ของวิสาหกิจชุมชนเกษตรขุนกูน โดยได้รับความร่วมมือจากกลุ่มธุรกิจซีพีออลล์ ผ่านช่องทางออนไลน์ CP All market โดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
คุณกมลสิทธิ์ ศักดิ์ติยปราการ ผู้ช่วยผู้เชี่ยวชาญ ฝ่ายส่งเสริมวัฒนธรรมและวิสาหกิจชุมชน สำนักกิจการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และ คุณวราลักษณ์ โพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้ ศูนย์ 7 สนับสนุน SME บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีพีออลล์ เข้ามาสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายอะโวคาโด ผ่านนโยบายส่งเสริม และคัดสรรสินค้ามีคุณภาพจากผู้ประกอบการรายย่อยทั่วประเทศ มาจำหน่ายในช่องทาง ALL Online ได้แก่ LINE Official และ LINE OpenChat โดยมุ่งเน้นช่องทางการขายที่สร้างรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน
สวพส.นำโดยคุณชวลิต สุทธเขตต์ ผู้จัดการโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงลุ่มน้ำน่าน โดยการดำเนินงานของ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางยาง ย้ำตั้งเป้าหมายจะพัฒนาหมู่บ้านปางยาง ต.ภูคา อ.ปัว ให้เป็นแหล่งรวบรวมพันธ์ของโครงการหลวง และผลผลิตอะโวคาโดที่ใหญ่ที่สุดใน จ.น่าน โดยพัฒนาคุณภาพและชนิดพันธุ์ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบันปลูกอะโวคาโดกว่า 1,000 ไร่ หรือ ประมาณ 40,000 กว่าต้น ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน ควบคู่ไปกับการเพิ่มช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกด้วย