ดร.ศฎาวุฒิ กุลมณี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ จัดกิจกรรมเปิดบ้านนำเสนอการพัฒนางานวิจัยพันธุ์ข้าว พริก และ ถั่วเหลือง ของธุรกิจพืชครบวงจร (CPP) เพื่อเปิดกว้างการแบ่งปันความรู้ทางวิชาการและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สร้างเครือข่ายพัฒนางานวิจัยของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง เกษตรกรได้นำพันธุ์ข้าวที่ดีใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นอีกก้าวการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวลูกผสมให้สามารถแข่งขันทั้งด้านผลผลิตและการลดต้นทุนการเพาะปลูก ร่วมถึงพืชสวน พริก และ ถั่วเหลือง ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการนำเข้าสูง ถ้าสามารถปรับปรุงและทำให้การเพาะปลูกในประเทศเพียงพอจะช่วยให้เกษตรกรได้เพิ่มรายได้มากขึ้น
ดร.ณัฐวุฒิ สิงห์คำ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านงานวิจัยพันธุ์ข้าวและพืชสวน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ข้าวพันธุ์ลูกผสม (F1-hybrid) ของ CPP ซึ่งมีการพัฒนาพันธุ์มาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านผลผลิตและคุณภาพการบริโภค และได้ทดสอบการปลูกข้าวลูกผสมโดยเมล็ดพันธุ์ 4 กก.ต่อไร่ โดยใช้โดรนในการหว่านเมล็ดพันธุ์เพื่อช่วยลดต้นทุน ภายในงานยังมีการจัดแสดงพันธุ์พริกลูกผสม CPHOT11 , CPHOT21 ซึ่งได้ยื่นขอหนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียนเรียบร้อยและพันธุ์ถั่วเหลืองดีเด่นอีกหลายสายพันธุ์
คุณวิโรจน์ ทดเจริญ ตัวแทนเกษตรกรคนเก่งที่ทดสอบพันธุ์ข้าวลูกผสมคนแรก โดยเข้าร่วมกับ CPP มาเป็นเวลากว่า 6 ปี กล่าวว่า การทำนาต้องอาศัยความเข้าใจและวางแผนการจัดการที่ดี ร่วมถึงการมีเครือข่ายทางวิชาการให้ความรู้พัฒนาไปพร้อมกัน ทำให้ชาวนามีสายพันธุ์ข้าวที่ดี มีผลผลิตที่ดี คุณภาพสูง การปลูกข้าวลูกผสมไม่ได้ยาก จะต้องจัดการแปลงให้ดี จะได้ผลผลิตที่สูง คุ้มค่ากับการลงทุน
ภายในงานยังมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม อาทิ เกษตรกร , กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว , กลุ่มผู้ประกอบการโรงสี , คณาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มทร.ล้านนา, สวทช. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เข้างานร่วมกว่า 150 คน และได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมแปลงแสดงพันธุ์ทั้ง ข้าวลูกผสม , พริกลูกผสม และถั่วเหลืองสายพันธุ์ดีเด่น พร้อมระดมความคิดเห็นให้งานวิจัยพันธุ์พัฒนาต่อยอดสร้างความมั่นคงทางอาหารที่ปลอดภัยให้กับโลกต่อไป