เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่มีปัญหาด้านโภชนาการในประชากรวัยเด็ก เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ประมาณ 1.5 ล้านคน ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ปัญหาเหล่านี้ตกเป็นปัญหาของสถานสงเคราะห์ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐ หรือองค์กรทางศาสนา เช่น วัดหรือโบสถ์ ซึ่งมีงบประมาณจำกัด ไม่เพียงพอ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของเด็กๆ เพราะฉะนั้น ทางซีพี เวียดนามเห็นถึงปัญหานี้ จึงจัดทำโครงการโภชนาการพอเพียง (Chicken Farm supplies nutrition for children)
วัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพที่ดี แก่เด็กและเยาวชนในวัยเรียนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง (เด็กด้อยโอกาส) สนับสนุนและลดค่าใช้จ่าย ด้านอาหารในการเลี้ยงเด็กของสถานสงเคราะห์ที่เลี้ยงเด็กกำพร้า ส่งเสริมประการณ์การเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชน ให้สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคตได้
การดำเนินโครงการโดยการยึดหลักปรัชญา “ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา” ไม่ใช่เพียงแค่ให้เบ็ดอย่างเดียว แต่ต้องสอนวิธีการตกเบ็ด โดยทางซีพีจะสนับสนุนการสร้างโรงเรือน พันธุ์ไก่ อาหาร ยา วัคซีน และให้ความรู้การเลี้ยงไก่ เพื่อเกิดประสิทธิภาพในการผลิตใข่ไก่ นำไปใช้ในการเลี้ยงเด็ก ส่วนที่เหลือจะขายให้กับชุมชนเพื่อเอารายได้มาเป็นต้นทุน ในการต่อยอดและดำเนินโครงการในรุ่นต่อไป นอกจากนั้น ทางซีพีจะมีการติดตามผล ขยายผลเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและสร้างโครงการยืนด้วยตนเอง
โดยโครงการเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2018 ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จังหวัด Ben Tre (หรือ SOS Children’s Village Ben Tre) โดยระยะที่ 1 เรียกว่า “สร้างการรับรู้” ซึ่ง1 รุ่นไก่เป็นเวลา 1 ปี และระยะที่ 2 ทางซีพีขยายไปยังจังหวัดต่างๆ ที่ภาคกลางและภาคเหนือของประเทศเวียดนาม หรือเรียกว่าระยะ “การพัฒนาโครงการ” และปัจจุปันเป็นระยะที่ 3 “สู่ความยั่งยืน”
ทางซีพีเวียดนามตระหนักดีว่า ความสำเร็จของโครงการต้องอาศัยอยู่ความร่วมมือระหว่างกองทุนเด็กเวียดนาม (The Nation Fund for Vietnamese Children) เป็นหน่วยงานประสานระหว่างบริษัท กับสถานสงเคราะห์ ต่างๆ เพื่อการขยายและพัฒนาโครงการสู่ความยั่งยืน รวมถึงเป็นโครงการต้นแบบและขยายผลสู่ชุมชนต่างๆ
โดยโครงการนี้ขยายไปทั้งหมด 25 ฟาร์ม ทั่วประเทศเวียดนาม ส่งต่อโภชนาการจากไข่ให้แก่เด็กและเยาวชน กว่า 5,000 คน จากผลผลิตไข่ไก่ > 1,800,000 ฟอง/รุ่น ซึ่งนำมาใช้ประกอบอาหารเลี้ยงเด็ก 800,000 ฟอง/รุ่น จำหน่ายให้ชุมชน 1,000,000 ฟอง/รุ่น สร้างกำไรจุดละ 40,000 บาท เป็นทุนในการเลี้ยงรุ่นถัดไป แถมยังใช้ Biogas เป็นพลังงานทดแทนเพื่อลดค่าใช้จ่าย ต่อยอดด้วยการปลูกกินเอง สะอาด ปลอดภัย เป็นประโยชน์หน่วยงานและองค์กรในเวียดนามได้เข้ามาศึกษาดูงานอีกด้วย