แล้วคุณละProud To Be CP อย่างไร?

สวัสดีครับเจอกันสัปดาห์ละครั้งนะพี่น้องซีพี เข้าเดือนสิงหาคมแล้ว เวลาไม่เคยคอยใครจริงๆครับ พูดถึงเรื่องเวลา เมื่ออะไรที่ผ่านไปหลายปีแล้วเราย้อนกลับไปดูหลายๆคนมักมีเรื่องราวที่อยากจะบอกกล่าวถึงความรู้สึกต่างๆนานา เวลานี้ผมไปที่ไหนในซีพีเริ่มมีการพูดกันถึงอายุของเครือซีพีว่าอีก 2 ปี เครือซีพีของพวกเราก็จะมีอายุครบ 100 ปี แล้วเราจะมีการจัดงานอะไร หรือไม่ อย่างไร ชาวซีพีจะมีส่วนร่วมในวาระ 100 ปี กันอย่างไร ผมคิดว่าอีกไม่นานทางเครือฯคงมีรายละเอียดของการฉลอง 100 ปี ออกมาให้พวกเราทราบ

แต่วันนี้ผมมีโอกาสเห็นเรื่องราวความรู้สึกดีๆของเพื่อนพนักงานซีพีคนหนึ่งที่ชื่อว่า Chalinee Wongaiyara หรือ “น้องแอม” ที่ผมรู้จัก น้องแอมได้เขียนความรู้สึกของเธอบนเฟสบุ๊คเมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ผมอ่านแล้วรู้สึกขอบคุณในความกล้าหาญชาญชัยของเธอ น้องแอมเขียนไว้ว่า

***********************************************************************

“1.8.2019 ทำงานที่นี่ครบ 10 ปีแล้ว เวลามีคนถามว่าทำงานที่ไหน รู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ตอบว่าทำงานที่ CP แต่ก็นะคงหลีกเลี่ยงไม่ได้กับสิ่งที่ตามมา หลายครั้งมักเจอคำถามที่ผู้ถามไม่ได้ต้องการฟังคำตอบเพราะตัดสินและคิดคำตอบเองไปแล้ว หรือบางครั้งแค่สิ้นคำว่า CP ก็มีบทบรรยายเชิงบั่นทอนออกมาเป็นชุดเลยทีเดียว พอเวลามีข่าว หรือกระแสบนโซเชียล ผู้คนต่างพิมพ์ comment กันชนิดคีย์บอร์ดลุกเป็นไฟ เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า

…ต้องสตรองเบอร์ไหนว่ะถึงอยู่ในองค์กรที่โดนกระแสโจมตีตลอดเวลานี้ได้?
…แล้วถ้าองค์กรมันแย่ขนาดนั้น แอมจะยังอยู่ทำงานที่นี่เหรอ?
ถ้าใครรู้จักแอมดี แอมเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจัง แล้วเต็มที่กับงานมากๆ ทุ่มเทชนิดสุดแรง บ่นบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็เป็นปกติของการทำงานแหละเนอะ เอาเป็นว่าวันนี้ลองมาเปิดใจฟังแอมบ้าง แอมจะบอกเหตุผลที่แอมยังคงทำงานที่นี่
– เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ตลอดเวลา ชนิดที่คุณไปเสียเงินเรียนที่ไหนก็คงไม่ได้ (ไม่เสียเงินละแถมเค้ายังให้เงินคุณด้วยนะเออ555)
– มีโอกาสได้เรียนรู้ธุรกิจที่หลากหลาย ชนิดครอบจักรวาลเลยนะ
– ไม่ดีเหรอถ้าคุณได้อยู่ในองค์กรที่มีแต่คนเก่งๆ อย่างน้อย ความรู้จากคนเหล่านี้ก็ต้องถูกถ่ายทอดมาที่เราบ้างแหละไม่มากก็น้อย
– เราถูกปลูกฝังให้เป็นทั้งคนเก่ง และคนดี พัฒนางานตัวเองอยู่ตลอดเวลา สร้างสรรค์ คิดค้นอะไรใหม่ๆ (มันเป็นแบบนี้จริงๆนะ)
– งานทุกอย่างที่คิด หรือทำต้องอยู่บนพื้นฐานความยั่งยืน
– มีโครงการเยอะมากเลยนะที่เราทำเพื่อสังคม และชุมชนด้วยใจ ไม่ใช่เพื่อธุรกิจ
– หลายครั้งเรามักได้รับโจทย์ที่ท้าทาย ในใจคิดว่ามันไม่ได้หรอก โห ขนาดนี้ใครจะทำได้ แต่หลายครั้งพอลองลงมือทำ…เออ ก็ทำได้นี่หว่า
– แล้วการที่ได้ทำงานในองค์กรที่สามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกได้ เป็นคุณไม่ภูมิใจเหรอถามจริง

สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดที่แอมได้รับมาตลอดคือ โอกาส นี่คือแอมพูดจากมุมที่แอมยืน และรับรู้ได้มาตลอด 10 ปี ยังมีอีกเยอะในระหว่างเส้นทางการทำงานที่ผ่านมาที่แอมได้รับ ถ้าแอมไม่ภูมิใจ หรือไม่รักองค์กรนี้จริงๆแอมก็คงไม่ได้มานั่งพิมพ์อะไรยาวขนาดนี้หรอกว่างั้นมั้ย #CPLife10years

***ใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณที่อย่างน้อยก็เปิดใจรับฟัง น่ารักที่สุด?”

***********************************************************************

ผมเชื่อว่าสิ่งที่”น้องแอม”เขียนออกมา ชาวซีพีอีกจำนวนมากก็คงรู้สึกเหมือน”น้องแอม”ที่เจอะเจอสปีชเฮท คำต่อว่าต่อขานซีพี หลายคนเคยบอกผมว่าเวลาอยู่ในวงเพื่อน วงประชุมเสวนา สัมมนากับคนภายนอกเค้าก็จะถามว่าคุณทำงานอยู่ที่ไหน พอบอกว่า”ซีพี”หลายคนก็โดนเพื่อนรุมทึ้ง จนไม่กล้าจะแสดงตัวว่าเป็นชาวซีพี แต่”น้องแอม”กล้าหาญชาญชัยที่จะไม่ตอบโต้แต่กล้าที่จะอธิบายว่าทำไมเธอถึงทำงานที่ซีพี เธอได้อะไรจากองค์กรนี้ ทำไมเธอถึงภาคภูมิใจในความเป็นซีพี เพราะเธอมีประสบการณ์ด้วยตนเอง

ผมเลยอยากชวนชาวซีพีครับ ซีพีไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมคิดหรือเข้าใจ ทุกกลุ่มธุรกิจ ทุกหน่วยงาน พนักงานทุกคนถูกสอนให้ยึดมั่นใน 6 ค่านิยม สอนให้ยึดมั่นในธรรมาภิบาล คุณธรรม ความรับผิดชอบสังคม และทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน กิจการต่างๆของซีพีช่วยกันคิดช่วยกันทำกิจกรรม โครงการดีๆด้านสังคมมากมาย พนักงานมีจิตใจดีงามชวนกันเป็นซีพีจิตอาสาออกไปทำประโยชน์ให้สังคม ชุมชนกันตลอดเวลา ซีพีไม่ได้คิดหรือทำอะไรเพื่อตัวเองแต่เรายึดมั่นในเรื่องของ3ประโยชน์คือประเทศชาติ ประชาชนและองค์กรมาตลอด

ผมเชื่อว่าชาวซีพีทุกคนล้วนมีเรื่องราว ประสบการณ์ดีๆ ความภาคภูมิใจหรือ Proud to be CP ไม่ว่าจะเป็นชาวซีพีในเมืองไทยหรือในต่างแดน การที่พวกเราจะมีส่วนฉลองครบ 100ปี ที่ทำได้ทันทีทุกคนคือใช้ความกล้าหาญชาญชัยอย่าง”น้องแอม”ที่จะบอกกล่าวเรื่องราวดีๆ กิจกรรมดีๆ ธุรกิจ ธุรกรรมดีๆที่แต่ละ BU ทำ รวมทั้งความภาคภูมิใจ ความประทับใจที่ได้อยู่ในบ้านหลังที่ชื่อว่า”ซีพี”เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้ทราบข้อเท็จจริงกันครับ
300,000 กว่าคนถ้าช่วยกันเขียนช่วยกันสื่อก็มีเรื่องราวดีถึง3แสนกว่าเรื่องเลย คงจะช่วยให้สังคมรู้สึกดีไปกับพวกเราในวาระ 100 ปี ที่จะมาถึงครับ