เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ผมคิดว่าเป็นอีกวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของเครือฯ แม้จะเป็นวันหยุดแต่คณะผู้บริหารเครือฯนำโดย คุณศุภชัย เจียรวนนนท์ CEO เครือ ต่างเสียสละเวลามาถกแถลงกันเพื่อที่จะกำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์การดำเนินกิจการของเครือฯโดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของเครือฯทั้ง 13 กลุ่มธุรกิจจะดำเนินกิจการอย่างไรที่จะทำให้เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมทั้งระดับโลก ประเทศและสังคมที่เครือฯไปลงทุนตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน
ผมคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีความหมาย มีความสำคัญกับพวกเราชาวซีพีกว่า 3 แสนคนครับ
ประการแรก วันนั้นผู้บริหารระดับสูงของเครือฯล้วนเป็นเบอร์1ของกลุ่มธุรกิจ การประชุมมีความสำคัญที่คณะผู้บริหารได้ร่วมกันพิจารณาถึงเป้าหมายสำคัญในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสังคมทั้งโลก เพราะกิจการเครือฯเกี่ยวข้องกับคนกว่า 3 พันล้านคน เกือบจะทุกภูมิภาค เกี่ยวข้องกับธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ตลอดซัพพลายเชนเรามีผลกระทบต่อเรื่องการใช้ทรัพยากรของโลก
ประการที่2 เดิมกิจการของเครือฯที่ผ่านมาจะมุ่งเน้นมิติของการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างรายได้ แต่ขนาดของกิจการ ความเกี่ยวพันในการดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับ Stakeholder ที่มากขึ้น คุณศุภชัยบอกว่าแนวคิดเดิมของซีพีที่เน้น Productivity อย่างเดียวไม่เพียงพอและสังคมมีความคาดหวังบทบาทความรับผิดชอบของเครือฯมากกว่าการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการประกอบกิจการที่มีความรับผิดชอบสังคม มีการดำเนินกิจการที่ดี และให้ความสำคัญการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้กิจการทั้งเครือฯต้องทำให้พนักงานมีแนวคิด ความคิด จิตสำนึกเรื่องความรับผิดชอบสังคม ให้ความสำคัญด้านธรรมาภิบาลและเรื่องความยั่งยืน
โดยเฉพาะแนวคิดด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่เครือฯประกาศจุดยืนที่จะขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 2016 ที่มีการกำหนดเป้าหมายความยั่งยืนเป็นครั้งแรก มีการกำหนดประเด็นที่สำคัญถึง 12 เรื่อง อาทิเช่น เรื่องความโปร่งใสในการทำธุรกิจ เรื่องของแรงงาน สิทธิมนุษยชน เรื่องการศึกษา การสร้างผู้นำใหม่ เรื่องการผลิตสินค้าที่ส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้นพร้อมTimelineที่จะทำให้สำเร็จในปี 2020 มีการจัดทำรายงานความยั่งยืน เพื่อบอกกับสังคมโลกว่าซีพีทำอะไรไปบ้าง สำเร็จมากน้อยเพียงใด จนได้รางวัลรายงานความยั่งยืนที่เป็นแบบอย่าง แต่สถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงทำให้มีโจทย์ใหม่ที่เครือฯจะนำมาเพิ่มเติมเป็นเป้าหมายใหม่ในอีก 10 ปี ข้างหน้าหรือปี 2030 การกำหนดเป้าหมายใหม่จึงเป็นเรื่องที่คนซีพีกว่า 3แสนต้องมีข้อตกลงร่วมกันที่จะช่วยกันทำใหสำเร็จ
ประการที่สาม เป็นการผนึกกำลังกันครั้งสำคัญของกิจการเครือฯ เป็นการพิจารณาเป้าหมายใหม่ที่จะร่วมกันทำให้สำเร็จในอีก 10 ปี ซึ่งมีทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ล้วนมีความท้าทายและต้องอาศัยคนซีพีทั่วโลกกว่า 3 แสนคนร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมแนวทางในการขับเคลื่อน ไปด้วยกัน มีการตั้งเป้าหมาย ติดตาม รายงานความคืบหน้า ซึ่งวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เห็นถึงความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้นำจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ซึ่งคงจะมีรายละเอียดไปถึงเพื่อนๆชาวซีพีต่อไป
ประการที่สี่ ผลการประชุมกำหนดเป้าหมายเป็นเรื่องที่ชาวซีพีจะต้องช่วยกันสื่อสารทำความเข้าใจถึงเหตุผล ความจำเป็น ความสำคัญในการทำให้สำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ CG เรื่อง Human Right&Labour Practice เรื่อง Education&Inequality Reduction เรื่อง Leadership&Human Development เรื่อง Cyber Security&Data Protection เรื่อง Social Impact เรื่อง Innovation เรื่องStakeholder Engagement เรื่อง Health&safety เรื่องClimate Change เรื่อง Waste Management เรื่อง Water Stewardship เรื่อง Ecosystem&Bio diversity และเรื่อง Responsible Supplychain Management ซึ่งเมื่อมีการพิจารณาตกผลึกถึงตัวเลขเป้าหมายต่างๆแล้ว พวกเราชาวซีพี จะได้ช่วยกันทำ
นี่คงเป็นสัญญานที่ดีเป็นอีก 1 หน้าประวัติศาสตร์ของซีพีที่จะมีอายุครบ 100 ปี ในปีหน้าและเป็นก้าวสำคัญในการเริ่มต้น 100 ปี ถัดไปที่ชาวซีพีจะผนึกกำลังไปด้วยกัน