สวัสดีครับพี่น้องชาวซีพี เป็นอย่างไรกันบ้างกับการใช้ชีวิตและการทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เวลานี้หลายๆอย่างที่เราเคยใช้ชีวิตเร่งรีบออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปทำงาน ไม่เหมือนเดิม ใครที่จำเป็นต้องเข้าสำนักงาน โรงงาน แต่ละวันต้องไม่ลืมสวมหน้ากาก พกเจล ทิ้งระยะห่างทางสังคม ต้องเพิ่มความระมัดระวังการใช้รถสาธารณะ ใจต้องคอยจดจ่อระวังเรื่องเจอะเจอผู้คน การใช้เงินทอง การหาอาหารมาทาน ฯลฯ
ส่วนเพื่อนๆที่ Work from Home หลายๆคนบอก 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมาต้องปรับตัวกันมาก ไหนจะต้องเตรียมพื้นที่ในบ้าน คอนโดหรือที่พักอาศัย ไหนจะต่อสู้กับการมีสมาธิในการทำงานที่ไม่เหมือนสำนักงานที่มีแอร์เย็นสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานก็พร้อม หลายคนบ้านมีลูกหลาน คุณพ่อคุณแม่ ฯลฯ ไหนหลายคนยังมีน้องหมา น้องแมว หลายคนต้องจัดระเบียบชีวิต ตัวเองและคนในครอบครัว ไหนจะต้องเตรียมคอมพิวเตอร์ เครื่องมือสื่อสาร รวมไปถึงเรื่องของอาหารการกิน เพราะเชื่อว่าอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นี่คงเป็นแค่เบื้องต้นที่พี่น้องซีพีคงจะประสบจะมากจะน้อยแตกต่างกันไป
หลายคนถามในใจว่าเราจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เท่าที่ผมสดับตรับฟังจากผู้บริหารซีพีรวมทั้งข้อมูลจากวงการแพทย์ หากทุกคนในประเทศร่วมมือกันหยุดโรคได้ก็อาจจะกินเวลา1-2เดือน แต่หากการระบาดยังเพิ่มไม่หยุดอาจจะยืดเยื้อไปอีกยาวนาน จนกว่าจะมียาที่ได้ผล หลายคนมองในแง่ดีอาจจะสิ้นปีจบ
เมื่อเป็นเช่นนี้ พี่น้องชาวซีพีและคนไทยจะต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมความพร้อม ต้องมองหาแนวทาง เครื่องมือ ที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ได้ ปลอดภัย และยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรเดินหน้าต่อไป กิจการของเครือฯเดินหน้าต่อไป พวกเราก็ยังมีงาน มีรายได้
หลายคนในแวดวงวิชาการ ภาคเอกชนรวมทั้ง คุณศุภชัย เจียรวนนท์ CEO เครือฯ ท่านให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองที่ผมคิดว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์กับทุกคน ท่านบอกว่าเราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง เราจะได้มีหลักคิดถึงความเป็นจริง ว่าเหตุการณ์โควิดเกิดขึ้น อย่าเพิ่งแพนิค สมเด็จพระสังฆราชทรงก็ประทานข้อคิดไว้ให้เรามี “สติ” และใช้ “ปัญญา” หาทางแก้ไข
กลับมาที่ข้อคิดคุณศุภชัยคือยังมีทางออกในเรื่องนี้เราต้องนำเอาเครื่องมือที่เป็นดิจิตอลมาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น เรียนรู้เทคโนโลยีและเครื่องมื่อที่มีอยู่ คิดและพัฒนาแพลตฟอร์มที่เราสามารถทำงานจากที่บ้าน ที่ไหนๆได้ เรียนหนังสือจากที่บ้านได้ ใช้เครื่องมือสื่อสารที่เป็นดิจิตอล เราไม่ต้องหยุดชะงักทุกอย่าง แม้อยู่บ้านทุกคนก็ยังสามารถทำกิจกรรม ธุรกรรมต่างๆได้
ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้คือ แม้เราจะ Work from Home แต่เรายังสามารถประชุมพูดคุย ติดตามงานกันได้ ซึ่งทางทรูก็ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น True Virtual World ออกมาที่ใช้งานได้ ทำให้เรายังสามารถทำงานร่วมกันได้ เครื่องมือนี้ไม่เพียงกับชาวซีพีใช้ เราก็สามารถแนะนำคู่ค้า ซัพพลายเออร์ ลูกค้า หน่วยงานภายนอกภายในใช้ได้
อีกตัวอย่างที่เห็นและมีใช้อยู่แล้วคือเราไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้านเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด แต่ก็สามารถซื้ออาหาร สั่งอาหาร ของจำเป็นในชีวิตผ่านออนไลน์ ไม่ต้องใช้เงินสดที่มีความเสี่ยงจากเชื้อที่ติดอยู่ตามธนบัตรหรือเหรียญ ด้วยระบบของทรูมันนี่ที่สามารถทำธุรกรรมต่างๆทั้งจ่ายบิลค่าน้ำไฟมือถือฯลฯ
ดังนั้นเราจะต้องอยู่ให้เป็นอยู่ให้ได้กับสถานการณ์เวลานี้ คุณศุภชัยให้ข้อคิดว่าการใช้ชีวิตดิจิตอลจะมาเร็วกว่าที่คาดกันและอาจจะทำให้เกิดการเกิด New Normal หรือการจัดระเบียบใหม่ในสังคม พวกเราชาวซีพีมีค่านิยมที่ดีอยู่แล้วคือการยอมรับการเปลี่ยนแปลง เราปรับตัวให้ทันสถานการณ์มากเท่าไหร่เราก็จะอยู่รอดปลอดภัยและดำเนินชีวิตต่อไปและเป็นการเตรียมพร้อมทุกคนสู่การเป็นองค์กรดิจิตอลตามที่เครือฯวางไว้ ใช้ดิจิตอลเป็นเครื่องมือพัฒนาสร้างคุณภาพชีวิตในยุคของการเปลี่ยนแปลง