สวัสดีครับพี่น้องซีพีเป็นอย่างไรบ้างครับกับสถานการณ์บ้านเมืองไทยและของโลกในเวลานี้ ผมเชื่อว่าช่วงเวลานี้ทุกคนคงมีภาวะอารมณ์ที่กังวลผสมกับความตึงเครียดกับภาวะการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะมีความเสี่ยงที่ประเทศไทยอาจจะเกิดการระบาดจากคนไทยด้วยกันเองจนต้องประกาศยกระดับมาตรการระยะที่3 ไม่ว่าจะเป็นผลจากคนไทยที่ไปอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการระบาดกลับมาบ้าน อย่างกรณีที่เรียกกันว่า”ผีน้อย”
ผมมีโอกาสพบผู้บริหารเครือฯท่านหนึ่งประเมินสถานการณ์บ้านเมืองให้ฟังแล้วพอจะเห็นประเด็นที่ชวนคิดคือ ปี2563นี้น่าจะเป็นปีที่ยุ่งยากทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมรวมทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจที่จะเกิดปรากฏการณ์โควิดเอฟเฟคต์ตามมามากมายอย่างที่มีข่าวสายการบินหลายแห่งถึงขั้นประกาศให้พนักงานหยุดงานเพราะผู้คนต่างเกรงกลัวการเดินทางไปยังประเทศต่างๆทั้งไปเที่ยว ไปทำงาน ติดต่อธุรกิจการค้าการลงทุนมีความเสี่ยงกับการต่อการรับเชื้อร้ายนี้มา ถึงขั้นผู้บริหารต้องปรับลดเงินเดือนเพื่อพยุงบริษัทไว้ ผลกระทบไม่เพียงแต่จะกระทบกิจการขนาดใหญ่ กิจการขนาดเล็กSMEก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งเรื่องการค้าขายที่หดหาย การขาดแคลนวัตถุดิบที่มาจากจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ เกิดภาวะการเลิกจ้างงาน คนตกงานอาจจะตามมาอีกมากมาย
ขณะที่ด้านการเมือง ด้านสังคม เกิดปรากฏการณ์ความขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นมาอีกครั้งระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าที่เริ่มมีการแสดงออกทางความคิดที่ขัดแย้งกัน ทำให้การเมืองและสังคมไทยมีความเปราะบางบวกกับทุกคนมีSocial Mediaการแสดงออกทางการบ้านการเมืองหากจัดการไม่ดีก็อาจจะเกิดเป็นปัญหาตามมา
ภาวะแบบนี้จึงเป็นเรื่องที่ชาวซีพีคงต้องคิด ไตร่ตรองและเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง ด้วยการช่วยกันดูแลตนเองและปฏิบัติตัวอย่างเข้มงวดตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังไวรัสโควิด-19เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยและบริษัทปลอดภัยจากไวรัสตัวนี้ ระวังการเดินทางไปยังประเทศเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยง ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย
ต้องถือว่าเราโชคดีอยู่ในเรือซีพีที่เป็นเรือลำใหญ่ที่สามารถแล่นไปในคลื่นลมที่รุนแรง เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกัน ร่วมมือกันต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ในเรื่องทางการเมือง ผมได้รับคำแนะนำจากผู้บริหารฝากถึงเพื่อนๆชาวซีพี ทุกคนต้องวางตัวให้ดี ไม่แสดงออกทางความคิด ทางการเมืองที่จะส่งผลกระทบต่อตัวพนักงาน ต่อตัวองค์กร พยายามหลีกเลี่ยงไม่ดึงองค์กรไปยุ่งกับความขัดแย้ง ผมเองก็ได้เห็นมีพวกเราชาวซีพีบางคนชอบแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ต้องระวังการใช้Hate Speech ทำร้ายตัวเองและสังคม เพราะใครตกงานหรือถูกลงโทษให้ออกจากงานในเวลานี้ไม่คุ้มกัน
มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินหน้า แก้ปัญหาจากโควิดเอฟเฟคต์ที่กำลังตามมา เราจะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสอย่างไร เราจะมีนวัตกรรม สร้างสรรค์สินค้า บริการ เทคโนโลยีที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน เราจะมีส่วนร่วมแก้ปัญหาสังคมอย่างไรให้ผ่านความยุ่งยาก ทั้งโควิด-19 หรือภัยแล้งที่กำลังจะตามมา พวกเราต้องนึกถึงประเทศชาติก่อน มีส่วนให้ชาติบ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
ผมเชื่อว่าองค์กรซีพีจะมีส่วนช่วยบ้านเมือง อย่างเช่นทรูที่กำลังขับเคลื่อนเทคโนโลยี5G ทำอย่างไรที่เราจะใช้ศักยภาพ5Gมาใช้ช่วยเรื่องสาธารณสุข การดูแลสุขภาพเช่นการเข้ามามีบทบาทของหุ่นยนต์ การเซนเซอร์ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การบรรเทาปัญหาภัยแล้ง การใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาให้ความรู้ผู้คนในประเด็นปัญาสิ่งแวดล้อม
หรืออย่างซีพีเอฟ ซีพีแรมอาจจะช่วยสร้างสรรค์อาหารสุขภาพมากขึ้น อาหารต้านโรค อาหารสู้ไวรัส หรือธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ ยิ่งตอบโจทย์ในอนาคตเรื่องโรคภัย หรือร้าน7-11อาจจะมีโอกาสเพิ่มเติมสินค้าพวกสมุนไพร บริการส่งอาหารตามบ้าน คนกลัวโรค กลัวไวรัสก็ยังมีความมั่นคงปลอดภัยในอาหาร เดลิเวอร์รี่ บริการของร้าน 7-11 ก็อาจจะเป็นโอกาสใหม่ๆ
ครับ ปี2563 พวกเราอาจจะต้องเตรียมพร้อม เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ช่วยกันคิดบวก ให้ซีพีนาวายังแล่นต่อไปได้และมีส่วนช่วยบ้านเมืองและโลกกัน