ทำความรู้จัก 6 ดัชนียั่งยืนที่สำคัญก่อนเริ่มต้นทุนในธีม ESG

HIGHLIGHTS

  • ธีมการลงทุนอย่างยั่งยืน หรือ ESG Theme กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
  • ผลตอบแทน Morningstar Global Markets Sustainability Index ย้อนหลัง 5 ปี มากกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป สะท้อนภาพการลงทุนที่มีศักยภาพและต้านทานความเสี่ยงได้ดี
  • ทำความรู้จักกับ 6 ดัชนีความยั่งยืนที่สำคัญของตลาดทุนไทย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสร้างพอร์ตลงทุนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ธีมการลงทุนอย่างยั่งยืน หรือ ESG Theme เป็นเทรนด์การลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ โดยส่วนมากแล้วจะพิจารณาการลงทุนจาก

  1. ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental)
  2. สังคม (Social)
  3. บรรษัทภิบาล (Governance) หรือ ESG ของธุรกิจ

เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจลงทุนและการประเมินมูลค่าธุรกิจ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ‘การลงทุนอย่างยั่งยืน’ ให้ผลตอบแทนไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดย Morningstar Global Markets Sustainability Index มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปี -21.1% เทียบกับ Morningstar Global Markets Large-Mid Index -20.1%

สาเหตุที่ Sustainability Index มีผลตอบแทนที่แย่กว่าเล็กน้อยนั้นมีเหตุผลจากมีส่วนของการลงทุนในหุ้นเติบโตมากกว่า และส่วนของหุ้น Value ที่น้อยกว่า Global Markets Index นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืนในรอบ 5 ปี พบว่า Morningstar Global Markets Sustainability Index มีผลตอบแทนที่ 7.7% สูงกว่าการลงทุนแบบ Morningstar Global Markets Large-Mid Index ที่ 7.4%

ตัวเลขผลตอบแทนนี้สะท้อนถึงประโยชน์ของการลงทุนยั่งยืน ที่นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยง ESG แล้ว ยังสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าการลงทุนโดยทั่วไปได้

นอกจาก Morningstar Global Markets Sustainability Index แล้ว ยังมีดัชนีความยั่งยืนอีกหลายดัชนีที่จะสามารถเป็นเครื่องมือช่วยนักลงทุนเฟ้นหาหุ้นอย่างยั่งยืนอีกหลายดัชนี ซึ่ง THE STANDARD WEALTH รวบรวมมาไว้ให้ดังนี้

 

1. SETTHSI 

จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG ซึ่งจะช่วยยกระดับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว ทำให้ธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงจัดให้มีการประเมินบริษัทจดทะเบียน เพื่อคัดเลือกรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (หรือ Thailand Sustainability Investment) และจัดทำ ‘ดัชนี SETTHSI’ เพื่อเป็นดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวราคาของหุ้นยั่งยืน THSI ที่มีขนาดและสภาพคล่องตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยสอดคล้องกับทิศทางของ Raters และ Index Providers ชั้นนำทั่วโลกที่มีการประเมินและคัดเลือกหุ้นเด่นด้าน ESG รวมถึงพัฒนาดัชนีด้าน ESG เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจสำหรับนักลงทุน

 

2. ESG Index

จัดทำโดยสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจ และเป็นผู้จัดทำข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance) 100 อันดับ หรือที่เรียกว่ากลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ซึ่งเริ่มจัดทำมาตั้งแต่ปี 2558

และล่าสุด​​สถาบันไทยพัฒน์ โดยหน่วยงาน ESG Rating ซึ่งเป็นผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย และเป็นผู้จัดทำข้อมูลกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ได้จัดทำรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2565 ออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการคัดเลือกจาก 851 บริษัท / กองทุน / ทรัสต์เพื่อการลงทุน ประเมินโดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ESG จาก 6 แหล่ง จำนวนกว่า 15,760 ชุดข้อมูล

 

3. Morningstar Global Markets Sustainability Index

จัดทำโดย Morningstar เนื่องจากเห็นความสำคัญของการลงทุนแบบยั่งยืน และมองเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการตัดสินใจลงทุน รวมถึงเห็นถึงสถานการณ์ในโลกการลงทุนยุคปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ นั้นมีให้เลือกใช้มากมาย แต่สิ่งที่คนในอุตสาหกรรม นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องการมากที่สุดนั้นคือความน่าเชื่อและความเป็นกลางของผู้จัดทำข้อมูล

 

4. Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)

จัดทำโดย RobecoSAM ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน ร่วมกับ S&P DowJones โดย DJSI เป็นดัชนีที่คัดเลือก ‘หุ้นยั่งยืนระดับโลก’ คือต้องเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความโดดเด่นในการทำธุรกิจ และคำนึงถึงประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก

ดัชนี DJSI ที่บริษัทจดทะเบียนไทยจะได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมการคำนวณ ประกอบด้วยกัน 2 ดัชนี ได้แก่

  1. ดัชนีหลักทั่วโลก หรือ DJSI World ซึ่งคัดเลือกจากบริษัทขนาดใหญ่กว่า 2,500 แห่งจากทั่วโลกที่อยู่ในดัชนี S&P Global BMI
  2. ดัชนีแยกตามภูมิภาค คือ DJSI Emerging Markets (EM) ซึ่งคัดเลือกจากบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่

ดัชนี DJSI เป็นดัชนีด้านความยั่งยืนที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะ

  1. เป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน มักจะให้ความสนใจกับหุ้นที่ถูกเลือกเข้าดัชนี DJSI เนื่องจากถูกคัดกรองเบื้องต้นแล้วว่าเป็นบริษัทที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล
  2. สร้างโอกาสการลงทุนด้วยหุ้นยั่งยืน บริษัทที่อยู่ใน DJSI ต้องมีคะแนนประเมิน ESG ครบทุกด้าน ซึ่งเรื่องแนวคิดเรื่องความยั่งยืนเป็นทางเลือกการลงทุนที่ถูกให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และเป็นเทรนด์การลงทุนในระยะยาวที่กำลังเติบโต
  3. ผลตอบแทนรวมสะสมย้อนหลังอยู่ในระดับที่ดี จากการทดลองสร้างพอร์ตลงทุนของฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยการเลือกบริษัทจดทะเบียนไทยที่อยู่ในดัชนี DJSI EM และปรับพอร์ตตามการเปลี่ยนแปลงสมาชิกของดัชนีรายปี (Annual Rebalancing)

 

5. MSCI ESG Index

จัดทำโดย MSCI โดยดัชนีที่บริษัทไทยเป็นสมาชิก มีชื่อว่า MSCI AC ASEAN ESG Leaders และ MSCI AC ASEAN ESG Universal

 

6. FTSE4Good Index

จัดทำโดย FTSE Russell โดยดัชนีที่บริษัทไทยเป็นสมาชิกมีชื่อว่า FTSE4Good ASEAN 5 Index และ FTSE4Good Emerging Indexes

ทั้งนี้ ดัชนีลำดับที่ 4-6 นั้น ผู้จัดทำดัชนีชี้วัดความยั่งยืน (Index Provider) ล้วนเป็นผู้จัดทำชั้นนำที่ได้รับความนิยมและยอมรับจากผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกนำมาใช้เป็นข้อมูลในการลงทุน


 

ที่มา THE STANDARD