ชื่นชม 2 สาวพนักงานเซเว่นปั้มน้ำมันโคกหลวงพ่อ อำเภอนางรอง ใจซื่อเจอสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทในถุงเงินทอนที่ลูกค้ามาใช้บริการรีบติดต่อส่งคืนเจ้าของ ด้านเจ้าของสร้อยทองเผยถอดวางไว้บนโต๊ะคาดลูกชายหยิบไปเล่นแล้วใส่ในถุงเงินเหรียญไว้ หาทั่วบ้านไม่เจอกระทั่งพนักงานเซเว่นติดต่อนำทองมาคืนให้ก็ดีใจมากไม่คิดจะได้คืน
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้าได้รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเล่นตั้งอยู่ถนนสายนางรอง-ปะคำ บ้านโคกหลวงพ่อ ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เก็บสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทได้ แล้วส่งคืนเจ้าของ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
โดยผู้ที่เก็บสร้อยทองได้ คือ น.ส.ชฎาภา ชวนกระโทก อายุ 27 ปี และ น.ส.ณภัทร ขำวงศ์ อายุ 39 ปี ทั้งสองเป็นพนักงานเซเว่น สาขา ปตท.โคกหลวงพ่ออ เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ขณะจะหยิบเหรียญในถุงออกมาทอนให้กับลูกค้าก็พบว่ามีสร้อยคอทองคำอยู่ในถุงเงินเหรียญด้วย จึงได้รีบโทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าของ ส่วนสาเหตุที่มั่นใจว่าทองน่าจะเป็นของลูกค้ารายนี้
เพราะเมื่อวานได้รับเหรียญจากลูกค้ารายนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น ประกอบกับพนักงานก็มีความคุ้นเคยกับผู้ใช้บริการรายนี้ เพราะนำเหรียญมาจ่ายค่าบริการที่ร้านเป็นประจำด้วย ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำความดี
ขณะที่ คุณยุทธพงษ์ ทิพย์อักษร หรือเต้ เล่าว่า ที่บ้านประกอบอาชีพให้บริการตู้กดน้ำ และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เมื่อครบกำหนดก็จะเอาเงินเหรียญจากตู้ที่ลูกค้ามาใช้บริการไปจ่ายค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ที่เคาน์เตอร์เซเว่นเป็นประจำ โดยล่าสุดช่วงค่ำวานนี้ก็ได้นำเหรียญใส่ถุงไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เซเว่นตามปกติ แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบดูว่าในถุงจะมีทองอยู่
กระทั่งกลับมาบ้านแล้วหาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทที่ตัวเองวางไว้บนโต๊ะภายในบ้านไม่เจอ ก็ตกใจมากคิดว่าคงหายไปแล้ว กระทั่งพนักงานเซเว่นได้โทรศัพท์มาบอกว่าตัวเองลืมทองไว้ในถุงเงินเหรียญที่นำไปจ่ายค่าบริการ จึงได้ไปติดต่อขอรับคืน พร้อมขอบคุณพนักงานเซเว่นทั้ง 2 คนที่มีจิตใจซื่อสัตย์เก็บของได้ก็ไม่คิดจะเอาเป็นของตัวเอง กลับรีบติดต่อส่งคืนให้เจ้าของ ซึ่งนอกจากจะกล่าวขอบคุณด้วยตัวเองแล้วยังได้นำเรื่องราวการทำความดีของทั้งสองคนไปโพสต์ในโซเชียล เพื่อแสดงความขอบคุณและชื่นชมอีกด้วย เพื่อให้ทั้งสองเป็นตัวอย่างแก่สังคมในการทำความดี
ส่วนสาเหตุที่สร้อยทองไปอยู่ในถุงเงินเหรียญนั้นก็คาดว่าช่วงที่ตนเองถอดไว้บนโต๊ะแล้วลูกชายอาจจะไปเล่น แล้วเผลอจับใส่ในถุงเงินเหรียญด้วยความไร้เดียงสาของเด็ก อาจจะคิดว่าเป็นของเล่น