แบงก์ชาติคลอดหลักเกณฑ์คุมแบงก์ทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ห้ามปล่อยกู้ลูกค้าบุคคลเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หวั่นกระทบปัญหาหนี้ครัวเรือน กำหนดเพดานลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้ไม่เกิน 3% ของเงินกองทุน แต่เปิดทางให้บริษัทลูกหารือ ธปท. ได้เป็นรายกรณี
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศเรื่องหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบธุรกิจและทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) โดยประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 21 ตุลาคม 2565 พร้อมส่งหนังสือเวียนแจ้งให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งรับทราบ
สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ประกอบด้วย การห้ามธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อป้องกันผลกระทบต่อฐานะการดำเนินงาน อันอาจส่งผลกระทบต่อเงินฝากของประชาชน และรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ รวมถึงเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน
ขณะเดียวกันยังห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ไม่ได้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลดำเนินการที่สนับสนุนให้ประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเปราะบาง เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล หรือส่งเสริมให้มีการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
โดย ธปท. ไม่ประสงค์ให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้สินเชื่อทุกรูปแบบที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าบุคคลธรรมดา เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต รวมถึงสินเชื่อที่มีการรับสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกัน เพื่อดูแลปัญหาการกู้ยืมเพื่อการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศ
นอกจากนี้ ไม่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินให้บริการผ่านช่องทางของธนาคารพาณิชย์ที่อาจทำให้ลูกค้าทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น เช่น โฆษณา เสนอขาย แนะนำ หรือรายละเอียดเกี่ยวข้องกับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลลูกค้าแก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด รวมถึงการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางการชำระราคาค่าสินค้าและบริการ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินสามารถลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไม่เกิน 3% ของเงินกองทุน เช่นเดียวกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน แต่หากกลุ่มธุรกิจทางการเงินลงทุนเกินอัตราส่วนที่กำหนด ให้หักส่วนที่เกินอัตราออกจากเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของของกลุ่มธุรกิจทางการเงินเต็มจำนวน และให้บริษัทแม่หารือ ธปท. เป็นรายกรณี
ทั้งนี้ สำหรับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินทั้งที่มีหรือไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ หากต้องการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่
- ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และธุรกิจผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรพย์ดิจิทัล หรือธุรกิจที่มีลักษณะเดียวกันในต่างประเทศ
- ธุรกิจที่มีธุรกิจหรือกิจกรรมหลักเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล หรือธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นใดที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ โดย ธปท. สามารถกำหนดให้นำแนวปฏิบัติเพื่อเข้าร่วมทดสอบและพัฒนานวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาให้บริการทางการเงิน หรือ Regulatory Sandbox มาใช้ได้
จะต้องให้บริษัทแม่ขออนุญาตต่อ ธปท. เป็นรายกรณี
นอกจากนี้ การจัดตั้งบริษัทที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทแม่ต้องแน่ใจว่ากลุ่มธุรกิจทางการเงินมีเงินกองทุนเพียงพอที่จะรองรับความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นจากบริษัทดังกล่าว รวมถึงดูแลให้กลุ่มธุรกิจทางการเงินไม่สร้างความเข้าใจผิดว่าธนาคารพาณิชย์มีส่วนรับผิดชอบในธุรกิจหรือธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน
ประกาศดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ธปท. อาจกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม หรือสั่งการให้แก้ไข ชะลอ หรือระงับการประกอบธุรกิจหรือการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นการทั่วไปหรือเป็นรายกรณี หาก ธปท. ตรวจพบว่ากลุ่มธุรกิจทางการเงินมีประเด็นที่อาจเข้าข่ายการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด หรือกรณีอื่นใดที่ ธปท. เห็นว่ามีความจำเป็น
สามารถอ่านประกาศฉบับเต็มได้ที่ https://www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2565/ThaiPDF/25650188.pdf