คณะกรรมการ CPF มีมติอนุมัติให้บริษัท ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ซีพีเอฟถือหุ้นทั้งหมด (“CPM”) ลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นหรือผลประโยชน์การลงทุน (economic interest) ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกลุ่มเทสโก้เอเชีย ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดยมูลค่าเงินลงทุนของ CPM ในบริษัทโฮลดิ้งเพื่อธุรกรรมการลงทุนในกลุ่มเทสโก้เอเชียมีมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( หรือเท่ากับประมาณ 47,991ล้านบาท) ฟาก CPALL ร่วมลงทุน 40% มูลค่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (95,981 ล้านบาท) ผ่านนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน คือ บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด
คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ หรือ CPF กล่าวว่าสนใจในการเข้าร่วมลงทุนในเทสโก้เอเซีย เนื่องจากเป็นการต่อยอด Value Chain ของช่องทางการขายสินค้าของบริษัททั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซียและเป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค ด้วยซีพีเอฟมีแนวทางในการปรับรูปแบบของการค้าเนื้อสัตว์ให้ผ่านช่องทางที่ทันสมัยสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น บริษัทจึงมั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการที่จะทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยและมาเลเซียมีทางเลือกในการบริโภคเพิ่มขึ้นในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว
การเข้าร่วมลงทุนครั้งนี้ ทำให้ยอดขายทั้งของเทสโก้และซีพีเอฟเพิ่มมากขึ้น และเนื่องจากเทสโก้เอเซียเป็นบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารและทีมงานมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เชื่อว่าการผนึกกำลังกับเทสโก้เอเซียน่าจะส่งผลเสริมให้ผลการดำเนินงานที่ดีอยู่แล้วนั้นดียิ่งขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ รายการลงทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่กำหนดไว้สำเร็จครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการได้รับมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ Tesco UK สำหรับการขายหุ้นในกลุ่มเทสโก้เอเชีย สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าอนุญาตให้ทำรายการ (หากต้องมีการขออนุญาต) และได้รับอนุญาตจาก Ministry of Domestic Trade and Consumers Affairs of Malaysia ทำรายการในประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่าการเข้าทำรายการน่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2563 นี้
ด้าน คุณเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นหรือผลประโยชน์การลงทุน (economic interest) ในสัดส่วนไม่เกิน40% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) หรือเทสโก้ประเทศไทย ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 99.99 ในบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในประเทศไทย และ Tesco Stores (Malaysia) Sdn. Bhd. หรือ เทสโก้ประเทศมาเลเซีย
ประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco ในประเทศมาเลเซีย โดยการลงทุนของซีพี ออลล์ ในครั้งนี้จะเป็นการลงทุนจำนวน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (95,981 ล้านบาท) หรือไม่เกิน 40% ผ่านนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการลงทุน คือ บริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อลงทุนในกลุ่มเทสโก้เอเชีย (เทสโก้ประเทศไทยและเทสโก้ประเทศมาเลเซีย)
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวจะส่งเสริมให้บริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ประโยชน์หลายประการจากการได้มาซึ่งธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยที่มีรูปแบบร้านค้าที่หลากหลาย ที่จะช่วยส่งเสริมรูปแบบธุรกิจที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานที่ดี ทำให้มีรูปแบบร้านค้าที่หลากหลายขึ้น ซึ่งรวมถึง ค้าส่ง cash and carry และรูปแบบค้าปลีก (ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ)
นอกจากนี้ยังยกระดับการให้บริการแก่ผู้บริโภคที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ด้วยโอกาสธุรกิจเศรษฐกิจสมัยใหม่ (new economy business) ขณะที่ การเข้าซื้อธุรกิจในประเทศมาเลเซียจะเป็นช่องทางในการเข้าสู่ตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง
โดย เทสโก้ โลตัส จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจำหน่ายสินค้าให้กับเอสเอ็มอี เกษตรกร และผลิตภัณฑ์ชุมชน หลังจากที่แมคโคร และเซเว่น อีเลฟเว่น ได้เข้าไปส่งเสริม สนับสนุนให้สินค้าเอสเอ็มอีสามารถกระจายสินค้าไปสู่คนไทยทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว ช่วยทำให้เศรษฐกิจฐานราก และเศรษฐกิจของประเทศโดยภาพรวมเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน