โรคฝีดาษลิง กำลังระบาดทั่วโลก หลายคนสงสัยว่าอาการของโรคฝีดาษลิงและการแพร่ระบาด มีความเหมือนหรือแตกต่างจากโควิดโอมิครอนอย่างไร และโรคฝีดาษลิงจะระบาดไปทั่วโลกหรือไม่ มาดูกันว่าความแรงของทั้ง 2 โรคนี้ต่างกันอย่างไรบ้าง
เปรียบเทียบอาการฝีดาษลิงกับโควิดโอมิครอน
อาการโรคฝีดาษลิง
- มีไข้
- หนาวสั่น
- ปวดศีรษะ
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
- ไอ
- ปวดหลัง
- มีผื่นขึ้นทั่วร่างกาย
- ผื่นกลายเป็นตุ่มหนอง
อาการของโรคฝีดาษลิงจะแสดงหลังจากติดเชื้อไปแล้วประมาณ 12 วัน อาการป่วยดังกล่าวจะเป็นอยู่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่จะหายจากโรคได้เอง แต่ถ้าหากผู้ป่วยมีภูมิต้านทานโรคต่ำหรือมีโรคประจำตัว อาจเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หรือเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กประมาณ 10%
อาการโควิดโอมิครอน
- ไอ
- เจ็บคอ
- มีไข้
- ปวดกล้ามเนื้อ
- มีน้ำมูก
- ปวดศีรษะ
- หายใจลำบาก
- ได้กลิ่นลดลง
หากเทียบกับสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดอย่างหนักเมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว อาการของโควิดโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่า ประกอบกับการที่ผู้คนจำนวนมากฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว จึงทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น แม้ว่าจะติดเชื้อแต่ก็มีอาการไม่รุนแรงและรักษาตัวไม่กี่วันก็หายเป็นปกติ
วิธีการแพร่เชื้อของฝีดาษลิงกับโควิดโอมิครอน
สิ่งที่หลายคนกังวลเรื่องการระบาดของโรคฝีดาษลิงก็คือ จะสามารถติดต่อกันได้ง่ายเหมือนกับโควิดโอมิครอนหรือไม่ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำเตือนเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลจนเกินไปว่า โรคฝีดาษลิงนั้นสามารถติดต่อจากคนสู่คนกันได้ยากกว่าโควิดโอมิครอน
การแพร่เชื้อของโรคฝีดาษลิง
ฝีดาษลิงแพร่จากสัตว์สู่คน
- การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น เลือด ผิวหนัง ของสัตว์ที่ป่วย
- กินสัตว์ที่ป่วย
- ถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัดหรือข่วน หรือสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อของสัตว์ที่ป่วย
ฝีดาษลิงแพร่จากคนสู่คน
- ละอองฝอยทางการหายใจ
- สัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง และตุ่มหนองของผู้ติดเชื้อ
- สัมผัสของใช้ที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่อยู่ในระยะฟักตัวประมาณ 7-24 วันการแพร่เชื้อของโควิดโอมิครอน
การแพร่เชื้อของโควิดโอมิครอน
- แพร่เชื้อผ่านทางระบบทางเดินหายใจ หากผู้ติดเชื้อไอ จาม หรือพูด
- เชื้อโควิด-19 สามารถติดอยู่บนพื้นผิวต่างๆ เช่น ราวบันได พื้นโต๊ะ หรือลูกบิดประตู หากไปสัมผัสพื้นผิวนั้นๆ แล้วนำมือมาจับตา จมูก หรือปาก ก็อาจติดเชื้อได้
- ผู้ที่เคยเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19
วิธีป้องกันการติดโรคฝีดาษลิงและโควิดโอมิครอน
วิธีป้องกันการติดโรคฝีดาษลิง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่วย สัตว์ที่เป็นพาหะโดยเฉพาะลิง และสัตว์ฟันแทะ
- หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสสัตว์ หรือสิ่งของสาธารณะ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง บาดแผล เลือด น้ำเหลืองของสัตว์
- ใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงมีการแพร่ระบาด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง แผล ตุ่มหนอง หรือตุ่มน้ำใส จากผู้มีประวัติเสี่ยง หรือสงสัยว่าติดเชื้อ กรณีที่สัมผัสเชื้อไปแล้ว ควรฉีดวัคซีนป้องกันในกรณีที่ยังไม่เกิน 14 วัน
ทั้งนี้วัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ แต่จะต้องฉีดในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเท่านั้น และยังสามารถรับวัคซีนได้ภายหลังจากการได้รับเชื้อไม่เกิน 14 วัน
วิธีป้องกันการติดโควิดโอมิครอน
- ใส่หน้ากาก
- ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ
- เว้นระยะห่างจากบุคคลอื่น
- เลี่ยงสถานที่แออัด
- ไม่รับประทานอาหารร่วมกับบุคคลอื่น
- ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม
แม้ว่าปัจจุบัน จะยังไม่พบการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิงในประเทศไทย แต่ก็ควรระมัดระวังและป้องกันตนเอง และไม่ตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลจนเกินไป หากต้องเดินทางไปประเทศสถานที่เสี่ยง อาจมีโอกาสติดเชื้อ และนำเชื้อกลับมายังประเทศไทยได้ อย่าลืมป้องกันตนเอง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด.
อ้างอิงข้อมูล: กรมการแพทย์, กรมควบคุมโรค