องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาอาหารโลกเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 2.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ในเดือนส.ค. โดยเพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. โดยเป็นผลมาจากการที่อินเดียระงับการส่งออกข้าวมาตั้งแต่เดือนก.ค. ประกอบกับผลผลิตข้าวลดลงในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวในซีกโลกเหนือ
ส่วนราคาเมล็ดข้าวและธัญพืช ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีสัดส่วนมากที่สุด ปรับตัวลดลง 0.7% เนื่องจากผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาข้าวโพดปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากปริมาณพืชผลที่เพิ่มมากขึ้นในบราซิล และราคาข้าวสาลีลดลง 3.8% เนื่องจากผลผลิตในสหรัฐและแคนาดาปรับตัวสูงขึ้น
FAO ระบุว่า 4 ใน 5 ของดัชนีย่อยก็ประสบปัญหาราคาลดลง นอกจากราคาเมล็ดข้าวและธัญพืชที่ลดลง ราคาน้ำมันพืช, ผลิตภัณฑ์นม และเนื้อสัตว์ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้น 1.3% และสูงกว่าระดับของปีก่อนหน้า 34% โดย FAO ชี้ว่า ราคาน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นนี้ มีสาเหตุมาจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลกระทบจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก อีกทั้ง ผลผลิตน้ำตาลในอินเดียก็ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ลดลงเช่นกัน ขณะที่ในบราซิล ฝนที่ตกหนักทำให้การเก็บเกี่ยวน้ำตาลยากลำบากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า FAO มีกำหนดเผยแพร่ดัชนีราคาอาหารโลกครั้งต่อไปในวันที่ 6 ต.ค. 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์