เมื่อเร็วๆนี้ มีการประชุมใหญ่หอการค้า 5 ภาค ประจำปี 2562 โดยมี คุณกลินท์ สารสินประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนนำเสนอความต้องการภาคธุรกิจเอกชนที่มีต่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ในฐานะที่ปรึกษาหอการค้าไทยและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บรรยายพิเศษ เรื่อง Digital Transformation กับการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงแรงและเร็วขึ้น เป็นยุค 4.0 คือ ความสามารถในการเชื่อมโยงกระบวนการทำงานกับการสื่อสาร ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เก็บข้อมูลได้จำนวนมาก พัฒนาจนสามารถคำนวณคาดเดาสถานการณ์ล่วงหน้าได้ จะเกิดขึ้นได้ ส่งผลให้ประเทศมหาอำนาจแย่ง ที่จะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา กลายเป็นสงครามไซเบอร์ เพื่อช่วงชิงการเป็นผู้นำด้านข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยี และเชื่อว่าจีนจะตอบโต้สหรัฐฯทางไซเบอร์ด้วย โดยหวังว่าหลังจากนี้การทำสงครามด้านเทคโนโลยีจะไม่นำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น
ในส่วนของโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) เป็นตัวอย่างการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเป็นศูนย์กลางเพื่อต่อยอด 4.0 เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในประเทศและภูมิภาค ซึ่งการพัฒนาในลักษณะเดียวกับอีอีซีควรเกิดขึ้นในภาคอื่นด้วย โดยควรดึงจุดแข็งของแต่ละภาคออกมาพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันต่อ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเส้นทางเชื่อมกับจีน ต้องวางนโยบายต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่จุดแข็งนี้ ภาคใต้ที่เชื่อมกับมาเลเซีย หากเชื่อมโยงกันได้จะส่งผลให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือจีดีพีเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยต้องมีความพร้อมทางด้านบุคลากร มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน สามารถพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ถูกต้อง โดยเฉพาภาคเกษตรที่มีประชากรคิดเป็น 40% ของประชากรทั้งหมดของประเทศ จำเป็นต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ต่อยอดไปยังยุค 5.0 นั่นคือปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีการคาดการณ์กันว่าในปี 2030 เทคโนโลยี AI จะกระทบต่อแรงงานไทยมากถึง 30% ซึ่งสอดคล้องกับ สถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ที่ประชุมเวิล์ดอีโคโนมิก ฟอรั่ม ที่ได้ประเมินศักยภาพดิจิทัลของประเทศในโลก อันดับ 1 คือ สหรัฐฯ รองลงมาคือสิงคโปร์ ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 39 ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับขนาดของเศรษฐกิจประเทศที่มีมูลค่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นที่สุด ไทยต้องพัฒนาบุคลากรทางด้านไอที