สัปดาห์ที่ผ่านมา ใครที่ได้ไปร่วมงาน “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว Exclusive Talk” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ เปิดใจคุยกับ คุณสรกล อดุลยานนท์ คอลัมน์นิสต์ดัง เกี่ยวกับความตั้งใจในการเขียนหนังสือที่ชื่อว่า”ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว”คงจะรู้สึกเหมือนผมที่ภาคภูมิใจ ประทับใจกับบรรยากาศของงานวันนั้น
เพราะไม่เพียงได้ใกล้ชิด ได้รับฟังความคิดความอ่านของท่านประธานอาวุโสโดยตรงแล้ว ยังได้เห็นความเป็นบุคคลที่น่าเคารพ ยกย่องของท่านประธานอาวุโสที่ยังคงอ่อนน้อม ถ่อมตนและคิดหรือทำอะไรเห็นกับประโยชน์ส่วนรวมเสมอ
ผมเชื่อว่าใครที่รับฟังท่านตั้งแต่ต้นจนจบไม่ว่าจะเป็นในห้องประชุมหรือดูถ่ายทอดทางเฟสบุ๊ค สัมผัสได้ว่าท่านเป็นคนที่คิดบวก ใจกว้าง มองโลกความเป็นจริงและเข้าใจในสัจธรรมของการเปลี่ยนแปลง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ ชอบทำอะไรที่ยากๆที่คนไม่ค่อยอยากทำ แต่สิ่งที่ยากนั้นจะต้องเป็นประโยชน์กับผู้คน
ผมได้เจอคนที่มาฟังท่านที่ไม่ใช่คนซีพี และมีความรู้สึกที่อาจจะไม่ค่อยชอบซีพีเพราะได้ชุดข้อมูล ชุดความคิดที่เป็นลบกับซีพีในเรื่องของความใหญ่ การผูกขาด การกอบโกย แต่ผมรู้จักสมัยเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัย ผมดีใจที่เพื่อนคนนี้บอกว่าไม่คิดเลยว่าการที่มาฟังท่านประธานอาวุโสพูดคุยมากมายหลายเรื่องจะทำให้เค้าเกิดความคิดใหม่และบอกกับผมว่าเค้าเข้าใจซีพี เข้าใจตัวท่านประธานอาวุโสผิด
ผมถามเค้าว่าทำไมถึงเปลี่ยนความคิดล่ะ เค้าบอกผมว่าไม่รู้มาก่อนเลยว่ากว่าจะมาเป็นซีพีทุกวันนี้ ท่านประธานอาวุโสต้องทำงานหนัก และที่น่าสนใจคือการมองโลกของท่านประธานอาวุโสน่าสนใจ วิธีคิด การมองโลก สังคม ล้วนมาจากประสบการณ์ชีวิต ไม่ได้มาจากตำราหรือทฤษฎีของฝรั่ง แต่เป็นความคิดของคนตะวันออกที่ชาญฉลาด คิดทำอะไรเพื่อคนจำนวนมาก แต่ฉลาดที่จะเอาความรู้ ความเก่งของโลกตะวันตกมาใช้ก่อร่างสร้างตัว พัฒนานวัตกรรม จนเป็นของตัวเองและคนอื่นตามไม่ทัน
แล้วก็เข้าใจแล้วว่าซีพีไม่ได้เป็นธุรกิจผูกขาดอย่างที่ทฤษฎีฝรั่ง วันนั้นท่านประธานอาวุโสเปิดใจถึงปรัชญา ความคิด วิธีคิดของท่านที่แตกต่างจากนักธุรกิจทั่วไป ท่านต้องการให้คนหมู่มากมีความสุข มีอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย อาหารที่จำเป็นต่อความสุขทางใจ ทางสติปัญญาของมนุษย์ ท่านมองเห็นและมองแบบทะลุปุโปร่งมากกว่าคนอื่น จึงทำอะไรที่ลึก กว้างไกลกว่านักธุรกิจทั่วไป
ที่น่าสนใจท่านย้ำถึงความเชื่อมั่นในเรื่ององค์ความรู้ เทคโนโลยีมากกว่าการไปแสวงหาอิทธิพล วิ่งเต้นหรือแอบอิงกับการเมือง ท่านพยายามทำและพิสูจน์ให้เห็นว่าคนเราจะประสบความสำเร็จ ต้องขยัน อดทน รับผิดชอบ คิดถึงผู้อื่น ทำให้มากกว่าคนอื่น ประโยชน์คนส่วนมากต้องมาก่อน ต้องรู้จักให้ ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนเรียนรู้ตลอดเวลา ให้เกียรติคนที่อายุมากกว่าหรือน้อยกว่า ไม่ดูถูก หรือมองแต่จุดอ่อนของคน ให้เอาแต่จุดดี ซึ่งนิสัย ใจคอ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นคุณธรรมที่ต้องฝึกปฏิบัติ
เพื่อนผมบอกว่าเขาเข้าใจท่านประธานอาวุโสผิด คิดว่าวันๆท่านคงจะคิดแต่เรื่องกำไร เรื่องความร่ำรวย ความยิ่งใหญ่ แสวงหา กอบโกยให้มากที่สุด แต่สิ่งที่ท่านประธานอาวุโสเล่าแจ้งบอกกล่าวกับคุณสรกลกับคนที่เข้ามาฟัง กลายเป็นเรื่องของความต้องการให้คนจำนวนมากเข้าถึงอาหารกาย อาหารใจ ท่านทำให้ไก่ที่มีราคาแพงที่เป็นอาหารของคนรวยกลายเป็นอาหารของคนทุกระดับ ความสำเร็จจากไก่ก็ไปทำเรื่องหมู กุ้ง ปลา เรื่องของอาหารการกินให้คนบนโลกสามารถเข้าถึงอาหารราคาที่ไม่แพง ปลอดภัย มีคุณค่า รวมไปถึงเรื่องของการเข้ามาทำโทรศัพท์ที่ทำให้โทรศัพท์ที่หายาก ราคาแพงเข้าถึงง่าย ผู้คนติดต่อสื่อสารกันง่าย รวมทั้งเรื่องที่กล้ามาทำรถไฟความเร็วสูง ก็เพราะคิดถึงส่วนรวม คิดถึงประเทศที่จะมีโอกาสที่ดีสู้กับคนอื่นๆบนโลกได้
ที่ประทับใจเพื่อนคนนี้ ยิ่งกว่านั้นคือภาพของลูกหลานของท่านที่มาเป็นกำลังใจและคุณวรรณี เจียรวนนท์ บุตรสาวคนโตที่บอกว่า “หลายคนมองคุณพ่อในฐานะนักธุรกิจ แต่พวกเรามองคุณพ่อเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง ที่รักประเทศชาติ รักทุกอย่างที่ท่านทำ รักลูกน้องและสอนพวกเราเสมอว่า เราต้องเป็นคนดี แล้วท่านจะพูดแต่เรื่องดีๆเกี่ยวกับทุกคนตลอดเวลา เรื่องไม่ดี ห้ามพูด เราก็พูดไม่ได้ คิดไม่ดีก็ไม่ได้ พวกเราเป็นตัวแทนของคุณแม่ด้วย เนื่องจากคุณแม่สุขภาพไม่ดี เลยไม่ได้มา แต่คุณแม่ก็รักสุภาพบุรุษคนนี้เช่นเดียวกับที่เรารัก”
ซึ่งสร้างความประทับใจและเรียกเสียงปรบมือจากผู้เข้าร่วมงานอย่างกึกก้อง ทุกคนสัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่น ความเป็นมนุษย์คนหนึ่งของท่านที่สัมผัสได้ จับต้องได้ว่าท่านเป็นบุคคลที่น่าเคารพ มากกว่าที่หลายคนบนโลกโซเชียลมักเข้าใจผิด
ผมคิดว่าสิ่งดีๆ ความคิดดีๆ สิ่งที่ท่านแบ่งปันให้กับคนที่มาฟังกว่า800 ชีวิตล้วนมีคุณค่าและอยู่ในหนังสือที่ชื่อว่า”ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว”ที่อยากชวนชาวซีพีทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของหนังสือและได้ใช้เวลาไม่มากในการทำความรู้จักท่านประธานอาวุโส แล้วร่วมหาคำตอบว่า ทำไมท่านถึงบอกว่า”ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว”และหากเราอยากประสบความสำเร็จจะต้องจัดการกับความคิด จัดการกับตัวเอง จัดการกับคนอื่นอย่างไร