คุณฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านดิจิทัล ภายใต้แนวคิด “One Roof, All Possibilities – ที่เดียว ทุกความเป็นไปได้” ล่าสุด เผยโฉม Work Space พื้นที่ทำงานและสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล ในบรรยากาศที่เปิดโล่งและเชื่อมต่อถึงกันในแต่ละชั้น เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างแท้จริง พร้อมเสริมจุดแข็งและเติมเต็มทุกความต้องการของสตาร์ทอัพ รวมทั้งการสนับสนุนและบ่มเพาะจากพาร์ทเนอร์ในทุกมิติ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ การแบ่งปันและหลอมรวมองค์ความรู้จากสถาบันการศึกษาและศูนย์วิจัยต่างๆ ก้าวล้ำกับเทคโนโลยีจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วยบริการต่างๆจากหน่วยงานภาครัฐ และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ติดปีกให้สตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ทั้งนี้ Global Innovation Index : GII ซึ่งจัดทำโดย Cornell SC Johnson College of Business และ INSEAD WIPO ได้เปิดเผยผลการประเมินผลดัชนีนวัตกรรมโลกว่า ประเทศไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งใหม่ของภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 44 ในปี 2561 มีอันดับที่ดีขึ้น 7 อันดับ โดยมีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้านความก้าวหน้าของตลาด (Market Sophistication) ผลลัพธ์จากองค์ความรู้และเทคโนโลยี (Knowledge and technology outputs) และอัตราส่วนประสิทธิภาพด้านนวัตกรรม (Innovation Efficiency Ratio) อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศในกลุ่มนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จ(Innovation Achievers) อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังมีสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ดังนั้น ทรู ดิจิทัล พาร์ค จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านดิจิทัล เพื่อร่วมสนับสนุนและเสริมศักยภาพของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 101 สถานีบีทีเอสปุณณวิถี พร้อมเปิดให้บริการครบทุกพื้นที่ในเฟสแรก แล้ววันนี้ โดยแบ่งพื้นที่ให้บริการ 3 ส่วนหลัก คือ Work Space ขนาด 77,000 ตร.ม. Lifestyle Space ขนาด 30,000 ตร.ม. และ Living Space ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัย โดย Work Space ของทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเป็นศูนย์รวมและสตาร์ทอัพคอมมูนิตี้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ภายใต้แนวคิด Open Innovation เพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จถึงระดับที่จะเป็น ‘ยูนิคอร์น’
คุณฐนสรณ์ กล่าวและเสริมว่า “สถิตของผู้เข้าทำงานที่ WorkSpace สะท้อนถึงความเป็นระบบนิเวศสมบรูณ์ แบบเพื่อสตาร์ทอัพอย่างแท้จริง โดยปัจจุบันมีกลุ่มผู้ใช้งานจากหลากหลายประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์, โซเชียลแพลตฟอร์ม, EnterprisePlatform, อี-คอมเมิร์ซ, หุ่นยนต์ รวมถึงธุรกิจเทคต่างๆ อาทิ ฟินเทค,ทราเวลเทค, มาร์เก็ตติ้งเทค, พร็อพเทค(PropTech) และ AgriTech เป็นต้น สำหรับสถิติด้านประชากรเป็นชายร้อยละ 57 และหญิงร้อยละ 43 โดยสาขาการทำงานของผู้ที่อยู่ใน True Digital Park ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและดิจิทัล ซึ่งมีมากกว่า 60% ของคนทั้งหมด แบ่งตามสาขาการทำงานได้ดังนี้ กลุ่มวิศวกร ไอที เทคโนโลยี และนวัตกรรม ร้อยละ 40, งานสนับสนุนทางเทคนิค ร้อยละ 15, ด้านการตลาดดิจิทัล ร้อยละ 6, ด้านบริหารและพัฒนาธุรกิจ ร้อยละ 25 และงานสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น บัญชี, บุคคล ร้อยละ 14
Work Space ประกอบด้วยพื้นที่ 4 โซน ดังนี้ 1. Co-Working Space พื้นที่นั่งทำงาน มีบริการแพนทรี และโซนพักผ่อน ,2. Office Space พื้นที่สำนักงานที่มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ใช้เป็นห้องประชุม และจัดกิจกรรม ออกแบบเปิดโล่ง มีบันไดเชื่อมต่อกันทุกชั้น เอื้อต่อการพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างคอมมูนิตี้ร่วมกัน, 3. Innovation Space แหล่งรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ศูนย์ทดลองนวัตกรรม และการเรียนรู้จากหน่วยงานภาครัฐ บริษัทต่างๆ และองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ NIA, DEPA, ETDA, ACE Singapore, KMITL, Google, AWS, Huawei, Ricoh, UOB, Wongnai, MuSpace, Thailand e-Center (TeC), CP Innovation และ True Digital Academy เป็นต้น
และ 4. Event and Business Services Space พื้นที่สำหรับจัดประชุม สัมมนา ศูนย์บริการทางธุรกิจ ศูนย์บริการครบวงจรจากrk Space ของทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้ได้มากกว่าที่นั่งทำงานแบบเดิมๆ โดยสมาชิกทรู ดิจิทัล พาร์ค จะมีที่นั่งทำงานสไตล์ Open Space เลือกได้มากกว่า 400 ที่นั่ง ทุกที่เชื่อมต่อสู่โลกดิจิทัลได้ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gbps และเครือข่าย WiFi ที่ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์ ฟรีกาแฟ เครื่องดื่ม และบริการแพนทรี (Pantry) ส่วนกลาง นอกจากนี้ ยังมีบริการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น VC Clinics และเพิ่มโอกาสการลงทุนให้แก่สตาร์ทอัพ, บริการให้คำปรึกษาและสนับสนุนการขอสมาร์ทวีซ่าสำหรับสตาร์ทอัพและชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย, บริการที่ปรึกษาธุรกิจ กฎหมาย บริการสนับสนุนอื่นๆ และสิทธิพิเศษด้านภาษี รวมทั้งยังมีการเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ เพื่อสร้าง Tech Talent ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดบุคลากรด้านดิจิทัล เป็นต้น
สุขุมวิท 101 ติดรถไฟฟ้าปุณณวิถี ทรู ดิจิทัล พาร์ค มีขนาดพื้นที่ 43 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ พื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล พื้นที่ไลฟ์สไตล์ และที่พักอาศัยที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใต้แนวคิด “One Roof, All Possibilities”
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ