บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5G ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในการติดตั้งและนำเทคโนโลยี 5G ร่วมพัฒนาการเรียนการสอน ครอบคลุมทั้งเรื่อง การสร้าง Smart Campus นำ 5G พัฒนาระบบอัจฉริยะสำหรับบริหารจัดการพลังงานของมหาวิทยาลัย ทั้งการบริหารจัดการ น้ำ ไฟฟ้า ที่จอดรถ การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม และระบบความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นเสมือนเมืองอัจฉริยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยสำหรับทั้งคณาจารย์ บุคคลากรและนักศึกษา
รวมทั้งการนำ 5G มาพัฒนาด้านการศึกษา ใช้เทคโนโลยี VR 5G พัฒนาห้องเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอนให้เสมือนจริง สามารถใช้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ เพื่อใช้ในการสอนต่าง ๆ อาทิ คอนเทนต์ 3D สำหรับการเรียนด้านวิศวกรรม หรือคอนเทนต์เสมือนจริงในการฝึกปฏิบัติงานต่างๆ
ทั้งการฝึกบังคับเครื่องจักรอุตสาหกรรม ตลอดจนการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อน อีกทั้งยังสามารถนำ 5G มาใช้ใน eSports Center Lab โดยนำเอา VR 5G มาสร้างประสบการณ์การเล่นอีสปอร์ตแบบเสมือนจริง ใน eSports Center Lab
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เหมาะสม และอยู่ในย่านธุรกิจใหม่ หากพื้นที่นี้เป็นโชว์เคสของทรู 5G จะทำให้บรรดาทูตานุทูตและสมาคมการค้าต่างประเทศที่มาเยือนมหาวิทยาลัยจะเห็นถึงประโยชน์ของ 5G และความทันสมัยของเทคโนโลยีในประเทศไทย นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังสามารถจัด
การแข่งขันอีสปอร์ตในระดับโลกที่ประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีของทรู หรือการเป็นสมาร์ทยูนิเวอร์ซิตี้โดยนำโชว์เคส 5G ที่เหมาะสมมาใช้ในมหาวิทยาลัย ตลอดจนการเรียนรู้ ซึ่งนักศึกษาที่เรียนเกี่ยวกับสาขาธุรกิจการบิน สาขานิเทศศาสตร์ สาขาบริหารธุรกิจ และนำเทคโนโลยี VR ไปใช้ในการเรียน เช่น นักศึกษาอาจต้องการพานักท่องเที่ยวไปที่โรมันหรือกรีก เมื่อใส่แว่น VR เราก็จะสามารถเดินในพื้นที่นั้น สัมผัสกับสิ่งของด้วยเทคโนโลยี 5G
ซึ่งจะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่นี่จะเป็นที่แรก ๆ ของเมืองไทยที่จะได้ใช้ 5G จะเป็นความร่วมมือที่จะประกาศศักดาความเป็นไทยที่ทันสมัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแห่งนี้มีความพร้อมและยินดีที่จะร่วมตอบโจทย์การพัฒนาเทคโนโลยี 5G ของประเทศไทยร่วมกับทรู โดยการลงนามความร่วมมือกับทรูครั้งนี้ เรามุ่งหวังที่จะพัฒนาระบบการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลก”
คุณพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ประเทศไทยไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นเประเทศแรก ๆ ในโลกที่จะเปิดบริการเทคโนโลยีใหม่แบบ 5G นี้มาก่อน ถ้าเริ่มใช้ปีนี้ก็จะนับว่าเปิดให้บริการพร้อมๆกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในเอเชียมีเพียง จีน และเกาหลี เท่านั้นที่เปิดใช้แล้ว
เทคโนโลยี 5G จะเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต ขณะที่ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะเป็นการช่วยกันสร้างอีโคซิสเต็มของ 5G เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาในด้านการศึกษาและการเป็นสมาร์ทแคมปัส ซึ่งสามารถใช้ VR มาช่วยทั้งในรูปแบบของการศึกษาทางไกลหรือการใช้ VR มาพัฒนาการเรียนการสอนให้เสมือนจริง เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการปฏิวัติระบบการศึกษา
ซึ่งทำให้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านคอนเทนต์ทั้งในเรื่องการใช้ AR/VR สำหรับอีสปอร์ต อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างจุดเปลี่ยนให้เป็นเส้นทางของทั้งการศึกษาและอาชีพ โดย 5G สามารถเข้ามาตอบโจทย์อีสปอร์ตได้ในหลายเรื่อง ผมเชื่อมั่นว่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีความโดดเด่นและสามารถต่อยอดจากยูสเคส ให้กลายเป็นธุรกิจจริงขึ้นมาได้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยทำให้เทคโนโลยี 5G ในประเทศไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาคนี้ได้อย่างแน่นอน”
การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างกลุ่มทรูกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นับตั้งแต่ปี 2561 ที่ได้เปิดหลักสูตร ‘ธุรกิจเกมและ eSports’ ครั้งแรกในไทย รวมถึงการจัดตั้งศูนย์วิจัยทรู แล็บ เพื่อเชื่อมโยงนักพัฒนาเกมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในปัจจุบัน
พร้อมทั้งสนับสนุนทุนวิจัยสำหรับสร้างเกมที่สร้างสรรค์ ส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพในระดับภูมิภาคหลากหลายด้าน และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการโครงการพัฒนาบุคลากรด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการ (สหกิจศึกษา) เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างยั่งยืน
รวมถึงการจัดสร้าง “UTCC eSports Lab by True” ห้องแล็บอีสปอร์ตครั้งแรกในประเทศไทย ที่ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทรู เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา
ที่มา CP E News