(23 ก.ค.) เข้าสู่วันที่สองของการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนระดับโลก One Young World Summit 2021 ณ กรุงมิวนิค ที่มีการเข้าร่วมของเยาวชนกว่า 1,700 คนจากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก รวมถึงตัวแทนเยาวชนคนรุ่นใหม่ในเครือเจริญโภคภัณฑ์กว่า 20 คน ในงานมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในประเด็นปัญหาสำคัญระดับโลก หนึ่งในหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในวันนี้คือ “วิกฤติสภาพภูมิอากาศ” ซึ่งมีการถกเถียงกันว่า การแก้ปัญหา ภายใต้ข้อข้อตกลง Climate Crisis: Under 10 Years to Go, can we deliver the Paris Agreement มีความเป็นไปได้หรือไม่ โดยมีเซอร์บ๊อบ เกลดอฟ ศิลปินและนักเคลื่อนไหวชื่อดัง เป็นผู้ดำเนินรายการ
การพูดคุยในประเด็นดังกล่าว มีตัวแทนเยาวชนที่ขึ้นพูดบนเวทีจากหลากหลายประเทศ อาทิ เจมี่ ครัมมี่ (Jamie Crummie) ผู้ร่วมก่อตั้ง Too Good to go จากไอร์แลนด์ ดาเนียลา เฟอร์นันเดซ (Daniela Fernandez) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Sustainable Ocean Alliance โจเซฟ ซองโก (Joseph Tsongo) ซีอีโอ จาก Amani-Institute ASBL เป็นต้น
หนึ่งในตัวแทนเยาวชนอย่างวาเนสซ่า นากาเท่ (Vanessa Nakate) ผู้ก่อตั้ง Rise Up Movement และนักเคลื่อนไหวจากยูกันดาที่ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในชาวแอฟริกันผู้ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดร้อยอันดับแรก กล่าวว่า สาธารณรัฐยูกันดาซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเร็วที่สุดในโลก หลายปีที่ผ่านมาเธอได้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทวีปแอฟริกาอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขบขันมาก เพราะทวีปแอฟริกามีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ต่ำมากเมื่อเทียบกับทวีปอื่น ๆ เว้นเพียงแค่แอนตาร์กติกาเท่านั้น
เธอยังบอกอีกว่า ในประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกาปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์คิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% เมื่อเทียบกับทั้งโลก แต่แอฟริกาก็ยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเรเรื่องดังกล่าว ทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง หลายคนต้องสูญเสียบ้าน สูญเสียครอบครัว และนี่จึงเป็นเหตุผลให้เธอออกมาเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ
“ปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและท้าทาย เราต้องการให้ผู้นำหยุดบอกว่าก๊าซธรรมชาติเป็นมิตรและมีความยั่งยืน เหมือนกับเชื้อเพลงอื่น ๆ ก๊าซกำลังทำร้ายพวกเรา มีประชาชน 9 ล้านคนเสียชีวิตก่อนบรรลุนิติภาวะทุกปี อันเนื่องมากจากมลพิษทางอากาศ เยาวชนกว่า 90% ทั่วโลกกำลังสูดอากาศที่เป็นพิษในทุก ๆ วัน ผู้คนที่ต้องเผชิญผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่สามารถรอถึง 10 ปีได้ เราต้องการเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้ ดังนั้น โปรดเลิกพูดถึงอีกสิบปีเพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงปารีส เราต้องเริ่มเดี๋ยวนี้ วันนี้” วาเนสซ่า นากาเท่ กล่าวย้ำในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีผู้นำเยาวชนจากฟิลิปปินส์ แจน คาเรล กิลเอโม (Jan Kairel Guillermo) ประธานและผู้ก่อตั้ง LEYTEAM, Inc และ UNIFY, Inc. ที่ใช้ศิลปะสร้างการตระหนักรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เขากล่าวว่า ในช่วงชีวิตเขาเคยเผชิญกับพายุไต้ฝุ่น ส่งผลกระทบต่อชุมชนถึงกว่า 95% เกิดปัญหาความรุนแรงตามมา คนกว่า 11 ล้านคนได้รับผลกระทบ มูลค่าความเสียหายกว่า 2.2 พันล้านเหรียญฯ
“นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น แทนที่จะบ่นว่าภาครัฐทำอะไรไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เรานำข้อมูลมาเสนอรัฐและใช้วัฒนธรรมและศิลปะมาสร้างการตระหนักรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” แจน คาเรล กิลเอโม กล่าว
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการที่ผู้นำเยาวชนในหลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างภัยธรรมชาติ แต่ยังกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอีกด้วย เป็นปัญหาที่จำเป็นต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน และไม่จำเป็นต้องรอให้ภาครัฐเข้ามาขับเคลื่อนเท่านั้น แต่เราสามารถเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเองได้ทุกคน