วันสุดท้ายของการประชุมบนเวทีผู้นำเยาวชนระดับโลก (25 ก.ค.) ได้มีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมี คาเวียร์ (Luis Javier Castro) ประธานผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการที่ Mesoamerica Investments เป็นผู้ดำเนินรายการ
คาเวียร์ เล่าถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต่อการทำธุรกิจของเขา และเป็นจุดที่ทำให้เขาเริ่มหันมาสนใจในการนั่งสมาธิและทำให้ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่ควรทำในตอนนี้คือ การช่วยแหลือคนอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้เท่าที่จะทำได้ เขาจึงได้ร่วมกับบุคคลจากหลากหลายภาคส่วนระดมทุนเพื่อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดตรวจโควิด รวมทั้งจัดสรรเงินบางส่วนเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ถูกเลิกจ้างหรือไม่มีรายได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
เธอได้ให้แนวคิด 3 ประการที่ได้เรียนรู้จากสถานการณ์โควิด-19 คือ 1. เราไม่สามารถควบคุมทุก ๆ อย่างได้ แต่สามารถควบคุมทัศนคติและมุมมองของตนเองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ 2. ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน และ 3. การให้ที่ไม่หวังผลตอบแทนจากผู้อื่น เมื่อคาเวียร์ได้เรียนรู้แนวคิดดังกล่าว เขาเชื่อว่าเราจะผ่านทุก ๆ เหตุการณ์ไปได้
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก แองเจล่า หวัง (Angela Hwang) สมาชิกของทีมผู้บริหารของไฟเซอร์และประธานกลุ่มของกลุ่มบริษัท ชีวเภสัชภัณฑ์ของไฟเซอร์ หนึ่งในผู้ถูกเลือกให้เป็นผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดในปีที่ผ่านมา แองเจล่าได้เล่าถึงเส้นทางความเป็นมาของวัคซีนไฟเซอร์ที่แสดงให้เห็นความท้าทายและความกดดันในหลาย ๆ ด้านอันเนื่องมาจากความต้องการที่จะให้เพื่อนมนุษย์ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็วที่สุด แองเจล่าได้ฝากแนวคิดไว้ให้เยาวชนรุ่นใหม่ว่า “จงตั้งเป้าหมายถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีทางเลือกใดนอกจากจะต้องประสบความสำเร็จ เพราะในที่สุดคุณจะหาทางทำมันจนได้”
ด้านตัวแทนเยาวชนจากสหรัฐอเมริกา ยูลี่ (Yulie Qiao) กล่าวถึงเทคโนโลยีซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยประคับประคองสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันได้ โดยเธอได้เล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อตอนที่เธอป่วยและต้องการหาที่ตรวจเชื้อโควิด เธอใช้เวลากว่าสองวันในการหาที่ตรวจและทราบผล ทำให้เธอเห็นถึงข้อบกพร่องและปัญหาในการเข้าถึงสารธารณสุข รวมทั้งค่าตรวจหาเชื้อโควิดที่มีราคาสูง ประกอบกับสถานที่ตรวจที่ไม่ทั่วถึง เป็นปัญหาหลักที่ยูลี่ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยเธอได้ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้การตรวจโควิดเบื้องต้นทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน ช่วยประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้เป็นอย่างมาก
สุขมีต ซิงห์ (Sukhmeet Singh Sachal) นักเคลื่อนไหวด้านสาธารณสุขชาวแคนนาดาเป็นอีกหนึ่งตัวแทนเยาวชนที่ได้รับเลือกให้มาพูดคุยบนเวที สุขมีต กล่าวว่า การให้ความรู้ ความเข้าใจในสถานการณ์โควิด-19 เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะเป็นจุดเปลี่ยนต่อสถานการณ์นี้ โดยเขาได้ยกตัวอย่างประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา คนในชุมชนยังไม่มีความเข้าใจต่อสถานการณ์และสิ่งที่ควรปฏิบัติ ยกตัวอย่างเช่น การปฏิบัติตัวในการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เขาได้เข้าไปมีส่วนช่วยให้ความรู้แก่คนในชุมชนให้ตะหนักถึงสิ่งที่พึงปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาด เพราะเขาเชื่อว่า การให้ความรู้ต่อสถานการณ์เป็นตัวช่วยหลักที่ทำให้ผู้คนเข้าใจในสถานการณ์มากขึ้น
บนเวทีแห่งนี้ ทำให้เห็นว่า การร่วมแรงร่วมใจเพื่อผลึกกำลังและความคิดจะเป็นตัวผลักดันในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่ทุกคนสามารถทำได้