กระทรวงพาณิชย์ ชี้สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทยอนาคตสดใส ขึ้นแท่นส่งออกอันดับ 4 ของโลก และอันดับ 1 ในอาเซียน เผย ปี 65 มูลค่าส่งออกกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โต 15% ตลาดสหรัฐฯ อาเซียน อียู และออสเตรเลีย เติบโตดี หนุนใช้ FTA ขยายส่งออก หลัง 15 ประเทศคู่ค้า ไม่เก็บภาษีนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทยแล้ว แนะศึกษาแนวโน้มตลาด ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และรักษามาตรฐานสินค้าตามหลักสากล
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย ซึ่งพบว่า ไทยครองแชมป์เป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 55-64) การส่งออกไปตลาดโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 1,522 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี
สำหรับในปี 65 การส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยไปตลาดโลก มีมูลค่า 2,847 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+15%) เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวได้ดี อาทิ สหรัฐอเมริกา (+30%) อาเซียน (+12%) สหภาพยุโรป (+17%) และออสเตรเลีย (+22%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาหารสำหรับสุนัขและแมว มีสัดส่วน 86% ของการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด และอาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ มีสัดส่วน 13% ของการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด
นายสินิตย์ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยอาหารสัตว์เลี้ยงถือเป็นสินค้าดาวเด่นที่น่าจับตามอง และมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งช่วยปลดล็อคกำแพงภาษีศุลกากร
ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาแนวโน้ม และวางแผนการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง อาทิ อาหารปลอดสารพิษ แคลอรี่ต่ำ และอาหารสำหรับสัตว์ที่เจ็บป่วย นอกจากนี้ ควรรักษามาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับหลักการสากลด้านสุขอนามัย เพื่อให้สินค้าไทยครองใจผู้บริโภคในตลาดโลกอย่างยั่งยืน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบัน 15 ประเทศคู่ค้า FTA ของไทย ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทุกรายการแล้ว
ทั้งนี้ เหลือเพียง 3 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการ อาทิ ญี่ปุ่น เก็บภาษีสินค้าอาหารเสริมของสัตว์เลี้ยง อัตรา 12.8% ส่วนเกาหลีใต้ เก็บภาษีอัตรา 40.4% และอินเดีย เก็บภาษีสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่ไม่ใช่สุนัขและแมว อัตรา 30% สำหรับความตกลง RCEP เกาหลีใต้ จะทยอยลดภาษีนำเข้าสินค้าอาหารเสริมของสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมให้ไทยจนเหลือ 0% ในปี 2579
“ไทยยังมีโอกาสที่จะขยายตลาดส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป และภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์สูง กรมฯ จึงได้เดินหน้าเจรจาเปิดตลาดเพิ่มเติมให้ไทยภายใต้ FTA กรอบต่างๆ ทั้งการทบทวนความตกลง FTA ที่มีอยู่แล้ว การสรุปผล FTA ที่อยู่ระหว่างการเจรจา และการเปิดเจรจา FTA ฉบับใหม่ๆ กับประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สมาคมการค้าเสรียุโรป และสหราชอาณาจักร รวมถึงสหภาพยุโรปที่เป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญของไทยอีกด้วย” นางอรมน กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์