ไม่ใช่แค่เวียดนามที่เป็นคู่แข่งส่งออกทุเรียนไทย ตอนนี้ ฟิลิปปินส์เริ่มมาแล้ว

ทุเรียน

ปี 2023 นี้ มีการคาดการณ์ว่าทุเรียนจีนจะเริ่มวางจำหน่ายตามท้องตลาดแล้ว แต่ก็ยังมีจำนวนไม่มากพอที่จะทำให้ชาวจีนทุกคนในประเทศได้ลิ้มลองรสชาติทุเรียนที่จีนเริ่มปลูกเอง ซึ่งก็มีการคาดการณ์ว่าปีนี้จีนจะบริโภคทุเรียนราว 1 ล้านตันหรือประมาณ 1 พันล้านกิโลกรัม

สำหรับจังหวัดไห่หนาน (Hainan) นั้น ถือเป็นพื้นที่แห่งแรกของจีนที่มีการลงทุนปลูกทุเรียนขนาดใหญ่ หลังจากที่เพาะปลูกมาแล้วกว่า 4 ปี ซึ่งจีนเป็นประเทศที่นำเข้าผลไม้เมืองร้อนจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกอย่างมหาศาล

แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่าจีนเตรียมเก็บเกี่ยวทุเรียนราว 2,450 ตัน แต่ด้าน Feng Xuejie ผู้อำนวยการสถาบัน Tropical Fruit Trees จากสถาบันวิชาการด้านเกษตรศาสตร์และวิจัยแห่งไห่หนาน ระุบว่า ปีนี้ไห่หนานน่าจะผลิตทุเรียนได้เพียง 50 ตัน คิดเป็น 0.005% ของการคาดการณ์ว่าคนจีนจะบริโภคทุเรียนราว 1 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าจำนวนรวมที่คาดการณ์ว่าจะเก็บเกี่ยวด้วย

เดือนที่ผ่านมา ยังปรากฏคำพูดของ Feng บนสื่อ Red Star News ไว้ด้วย Feng ระบุว่า มีการคาดการณ์การเก็บเกี่ยวทุเรียนในจีนที่ประเมินจำนวนสูงมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น ไห่หนานยังต้องใช้เวลาอีกสัก 2-3 ปีกว่าที่จะผลิตทุเรียนได้เพียงพอต่อความต้องการของคนจีนในประเทศจนสามารถทำให้ราคาทุเรียนลดลงได้ ขณะเดียวกันผลผลิตที่ได้ก็จะไม่สามารถกำหนดราคาให้ถูกมากๆ ได้ เพราะเพิ่งจะเริ่มสร้างผลผลิตได้ เป็นไปได้ว่าทุเรียนก็จะยังมีราคาแพงกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากทุเรียนจีนจะผลิตได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์มาก ยังมีราคาสูงกว่าประเทศในแถบอาเซียน Feng ยังคาดว่ายังต้องพัฒนาการปลูกอีกราว 5 ปี และราคาก็น่าจะไม่เปลี่ยนแปลงนักจนกว่าจะขยายพื้นที่การปลูกกินขนาดราว 20,000-30,000 เฮกตาร์หรือประมาณ 1.2 – 1.8 แสนไร่

ทั้งนี้ ทุเรียนในจีนที่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้ก็น่าจะถูกจัดสรรให้กับลูกค้าในไห่หนานที่สามารถพัฒนาตลาดได้ ส่วนที่เหลือก็เป็นนักท่องเที่ยวภายในประเทศที่จะได้ลองชิมรสชาติทุเรียนจากจีนบ้าง แต่ความที่ปลูกและได้ผลผลิตที่จำกัดทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าไม่ถึงทุเรียนจีนแน่นอน จากนี้ไปก็จะเริ่มมีการพัฒนาสายพันธุ์มากขึ้นและจะไม่มีการจดลิขสิทธิ์ใดๆ เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้ได้รับการพัฒนามากขึ้น


จีนนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามมากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับไตรมาสแรกนี้ SCMP ระบุ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เผยว่า เวียดนามส่งออกทุเรียนมายังจีนมูลค่า 153 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 5.2 พันล้านบาท ถือว่าส่งออกในจำนวนที่มากกว่าปีก่อนหน้าถึง 7.3 เท่า คิดเป็น 87% ของทั้งหมด ส่วนข้อมูลจาก JD.Com เผยว่า ลูกค้าต้องจ่ายราว 50 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,700 กว่าบาท สำหรับทุเรียนจากเวียดนามน้ำหนัก 7 กิโลกรัม และต้องสั่งล่วงหน้าด้วย ขณะที่ทุเรียนและมาเลเซียนั้นขายให้ Tmall sumpermarket ที่อยู่ภายใต้ Taobao หมดแล้ว

นักธุรกิจจีนในไทยมองเรื่องนำเข้าผลไม้ของจีนเป็นอย่างไร?

Sam Sin ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา แห่งบริษัท S&F Produce Group ของจีนที่มาทำธุรกิจส่งออกผลไม้เมืองร้อนในไทย ระบุว่า ผลไม้ไทยนั้นเป็นสิ่งที่คนจีนประทับใจอยู่แล้ว เราจะเห็นว่าตลาดจีนเติบโตรวดเร็วมาก สำหรับผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกในไห่หนานตอนนี้ คุณภาพยังไม่คงที่ จึงทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ และจีนยังจำเป็นต้องพึ่งพานำเข้าผลไม้ต่อไป

Sin บอกว่า ตอนนี้เขายังไม่เห็นสัญญาณใดๆ จากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะเผยให้เห็นว่าจะมีการร่วมมือกันข้ามพรมแดนเพื่อทำให้ผู้ปลูกผลไม้จากทุเรียนได้ผลประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้น สำหรับในไทยเองก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือแต่ประชาชนของตัวเอง

ฟิลิปปินส์ คู่แข่งส่งออกทุเรียนรายใหม่

ความคืบหน้าด้านทุเรียนของชาติอาเซียนล่าสุดก็คือ ฟิลิปปินส์เพิ่งจะลงนามทำสัญญากับจีน ช่วงที่ประธานาธิบดี Ferdinand Marcos Jnr เยือนปักกิ่งและทำความตกลงกัน โดยจีนเตรียมนำเข้าทุเรียนจากฟิลิปปินส์มูลค่า 260 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 8.9 พันล้านบาท ขณะที่ยอดส่งออกผลไม้โดยรวมที่ฟิลิปปินส์จะขนส่งมายังจีนตามที่ทำความตกลงเมื่อมกราคมที่ผ่านมานั้นมีมูลค่าราว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.9 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์เพิ่งจะส่งออกทุเรียนไปยังจีนราว 28 ตัน ตอนนี้ไม่ใช่แค่นำเข้าทุเรียนเท่านั้น แต่ยังมีมะม่วง กล้วย และมะพร้าวด้วย

 

ที่มา – SCMP (1)(2) Brand Inside