ทำความรู้จัก “Chilindo” บริษัทที่ CP ทุ่มงบมากกว่า 500 ล้านบาท ซื้อมาเพื่อเสริมทัพ e-Commerce

การเติบโตของ e-Commerce ถือเป็นการ Disruption วงการธุรกิจค้าปลีก แต่ถือเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับแบรนด์ในการขยายช่องทางการจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและตรงกลุ่ม ที่สำคัญเจ้าของแบรนด์ยังสามารถควบคุมช่องทางดังกล่าวได้ ทั้งรูปแบบการนำเสนอ รูปแบบการให้บริการ รวมถึงการจัดเก็บ Data ช่วยให้แบรนด์สามารถวางแผนและทิศทางการทำธุรกิจได้

เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP ก็เป็นแบรนด์ใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการขายผ่านระบบออนไลน์ โดยปัจจุบัน CP มีแพลตฟอร์มห้างสรรพสินค้าออนไลน์ We Mall อยู่แล้ว แต่เพื่อให้แพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถเขาถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย จำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับแพลตฟอร์ม We Mall ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์ม e-Commerce สัญชาติไทยแท้

ทำความรู้จัก Chilindo คืออะไร
ด้าน คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ชี้ว่า วิกฤติ COVID-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกก่อให้เกิดสังคมปกติวิถีใหม่ (New Normal) ส่งผลให้ e-Commerce กลายเป็นช่องทางหลักในการทำธุรกิจ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด บริษัทในครือ CP จึงเข้าไปซื้อหุ้นเว็บ Chilindo ในสัดส่วน 100% มูลค่าประมาณ 18 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 558 ล้านบาท

โดย Chilindo เป็นธุรกิจ e-Commerce ต่างชาติมีบริษัทแม่อยู่ที่ฮ่องกง เอกลักษณ์ที่ชัดเจนของ Chilindo คือ การประมูลสินค้าที่เริ่มต้น 1 บาท ทำให้เกิดการแข่งขันขึ้นในการซื้อสินค้าบนระบบออนไลน์ แม้จะไม่ชนะการประมูลทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่ราคาที่ประมูลมักจะมีราคาที่ถูกกว่าราคาจริงในตลาด ซึ่งนอกจากจะได้สินค้าที่ต้องการแล้ว ยังช่วยเพิ่มความตื่นเต้นในการประมูลสินค้าด้วย

นอกจากนี้การออกแบบของ Chilindo จะเน้นการใช้งานง่ายดาย ไม่ซับซ้อน ทำให้การใช้งาน Chilindo นั้น สนุก ง่ายและไม่สับสน รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ช่วยปกป้องข้อมูลบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวให้ปลอดภัยจากผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญ Chilindo ยังถือเป็นช่องทางในำารการโฆษณาสินค้าอีกช่องทางหนึ่งด้วย

เสริมศักยภาพ e-Commerce ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้เป้าหมายการซื้อ Chilindo เพื่อยกระดับให้เแพลตฟอร์ม We Mall กลายเป็นแพลตฟอร์ม e-Commerce สัญชาติไทยในการช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย จากการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ นอกจากนี้ยังได้เตรียมวางแผนนำ Chilindo บุกตลาด e-Commerce ในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นการสร้างแบรนด์ e-Commerce ของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

คุณศุภชัย ยังชี้ว่า การที่ CP ลงทุนในแพลตฟอร์ม Chilindo นั้น ถือเป็นการนำร่องเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม e-Commerce สัญชาติไทยที่จะมาช่วยยกระดับอีคอมเมิร์ซไทยก้าวสู่ตลาดในระดับสากล ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันตลาด e-Commerce ในประเทศไทย ล้วนเป็นแพลตฟอร์มของธุรกิจข้ามชาติเป็นส่วนใหญ่ แทบจะไม่ไม่แพลตฟอร์ม e-Commerce ที่เป็นสายพันธุ์ไทยแท้

“การเสริมความแข็งแกร่งด้านอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยนั้น ต้องให้ความสำคัญกับการยกระดับผู้ประกอบการรายย่อยของไทยและ SME ยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 การมีแพลตฟอร์ม e-Commerce สัญชาติไทยอย่าง Chilindo ถือเป็นการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสในจังหวะที่จะต้องเร่งส่งเสริมภาคเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และเป็นความหวังหนึ่งของการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงการรองรับเทคโนโลยี 5G ที่จะมาถึง”

ผสาน Chilindo สู่ความแข็งแกร่งในยุค 4.0
ปัจจุบันธุรกิจ e-Commerce ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท หากนับตั้งแต่เริ่มสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้มีมูลค่าการเติบโตสูงขึ้น ซึ่งคาดว่ามูลค่าการซื้อสินค้าผ่าน e-Commerce ตลอดทั้งปี 2563 จะเติบโตถึง 19% โดยคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ในประเทศกว่า 1.5% ของการบริโภคภาคเอกชน หรือ 0.8% ของ GDP ทั้งปี

ในอนาคตจะมีการนำร่องใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเป็นช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการรายย่อยและ SME รวมถึงเกษตรกรไทยสามารถใช้เป็นช่องทางหลักในการขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้โดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางที่ลดทอนรายได้ของธุรกิจและเกษตรกร โดยยึดหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ทั้งประโยชน์ของประเทศชาติ ประโยชน์ของประชาชน แล้วจึงค่อยยึดประโยชน์ขององค์กรเป็นลำดับสุดท้าย

สำหรับ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ตั้งเป้าหมายเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจ e-Commerce ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประสบการณ์การบริหาร “WeMall” ห้างสรรพสินค้าออนไลน์สินค้าแบรนด์เนมระดับพรีเมี่ยม รวมไปถึงร้านค้าออนไลน์ Weloveshopping ทั้งนี้เมื่อรวมกับ Chilindo จะช่วยเสริมศักยภาพให้เครือเจริญโภคภัณฑ์มีฐานธุรกิจ e-Commerce ที่แข็งแกร่งรองรับการเติบโตในยุค 4.0

สำหรับการแข่งขันด้านดิจิทัลในเวทีโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านดิจิทัลสูงมาก โดยทั่วโลกมีประชากรมากกว่า 7 พันล้านคน และมีการใช้สมาร์ทโฟนกว่า 5 พันล้านคน ประเทศไทยมีการเติบโตด้าน Mobile Consumption สูงถึง 60% สูงกว่าญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอังกฤษ ยิ่งเมื่อเทคโนโลยี 5G เกิดขึ้นแพลตฟอร์ม e-Commerce สัญชาติไทยจะได้รับประโยชน์ในหลายด้าน รวมถึงระบบความปลอดภัยในประเทศอีกด้วย

ที่มา:Marketingoops