คนส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกร หรือสนใจในเรื่องการเกษตร การปลูกต้นไม้ เชื่อว่าจะต้องรู้จักชื่อของ “เจียไต๋” บริษัทที่ทำธุรกิจด้านการเกษตรครบวงจรของประเทศไทย ในเครือซีพี หรือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นอย่างดี
เพราะธุรกิจมีหลากหลายที่เกี่ยวกับการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายเม็ดพันธ์ หรือสารเคมี และบริการด้านการเกษตร ที่สำคัญเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน นับอายุก็จะครบ 100 ปีแล้ว นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี 2463
จุดเริ่มต้นของ “เจียไต๋” เริ่มต้นขึ้นจากห้องแถวเล็กๆ บนถนนทรงสวัสดิ์ ย่านเยาวราช ก่อนกิจการจะขยายใหญ่ขึ้น จนพื้นที่ของสำนักงานแห่งเก่ามีไม่เพียงพอที่จะรองรับพนักงานที่มีจำนวนมากขึ้น ทำให้ผู้บริหารมีแนวความคิดในการมองหาสำนักงานแห่งใหม่ที่ใหญ่ขึ้น และรองรับจำนวนพนักงานได้มากขึ้น ที่สำคัญต้องเป็นสถานที่ทำงาน ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจ ปลุกไฟให้กับพนักงาน และเป็นสถานที่ดึงดูดกลุ่มรุ่นใหม่ กลุ่มมิลเลนเนียม ให้อยากเข้ามาทำงาน ตอบสนองความต้องการกลุ่มคนเหล่านั้นได้
“เจียไต๋” ทุ่ม 900 ล้านขึ้นออฟฟิศใหม่
“เจียไต๋” จึงได้ทำการย้ายออฟฟิศแห่ง ด้วยการลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ มูลค่า 900 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 60 ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีบางจาก เป็นอาคารขนาดความสูง 15 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวม 18,000 ตารางเมตร โดยชั้น 1-6 เป็นพื้นที่จอดรถ และชั้น 7-15 เป็นพื้นที่ทำงาน
คุณมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด เล่าว่า
“เจียไต๋กำลังจะฉลองครบรอบ 100 ปี จึงตัดสินใจย้ายสำนักงานมาที่ใหม่ เพื่อให้พนักงานทุกคนได้ทำงานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เน้นการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อม และความแข็งแกร่งของเจียไต๋ในการเดินเข้าสู่ปีที่ 100 อย่างมั่นคง”
ดีไซน์ด้วยแนวคิด “เหนือกาลเวลา”
สำหรับสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของเจียไต๋ ได้รับการออกแบบและตกแต่งโดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัดและ บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด ด้วยการดีไซน์ตัวอาคารให้เป็นลักษณะโมเดิร์น ร่วมสมัย และเรียบง่าย สะท้อนความเป็นตัวตนของ “เจียไต๋” ที่อยู่เคียงคู่สังคมไทยมาทุกยุคทุกสมัยเป็นเวลาเกือบ 100 ปี ตัวอาคารล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียว บริเวณด้านหน้ามีการปลูกพืชผักและดอกไม้ตามฤดูกาล เพื่อสะท้อนสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของ “เจียไต๋” กับวิถีการเกษตร และยังเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของพนักงาน
“คอนเซ็ปต์การออกแบบอยากได้อาคารเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ยังได้ความสวยงาม และสถาปัตยกรรมที่ดี ต้องตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้วย จังออกแบบให้มีเส้นแนวตั้งภายนอกอาคาร ใช้ประโยช์ได้ทั้งการกันแสงแดด และประหยัดพลังงาน”
ส่วนบริเวณด้านหน้าอาคาร ได้ถูกออกแบบให้เป็นสวนเกษตร หลากหลายชนิด ภายใต้แนวคิด Urban Green Area ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์จากพืชได้จริง และยังใช้เป็นแนวรั้ว ที่กั้นแนวเขตฟุตบาทกับพื้นที่สำนักงาน แต่ทำให้รู้สึกถึงความโปร่งสบาย เพราะไม่ได้ถูกกั้นเหมือนรั้วหรือกำแพงทั่วไป
“เราพยายามรักษาทั้งเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ให้คนเห็นแปลงผัก ดอกไม้ได้ มองจากริมถนนได้ แต่เข้าไม่ได้ เป็นคอนเซ็ปต์รั้วโล่ง ปีก่อนหน้านี้ก็ได้มีการปลูกข้าวจริงๆ ถึง 2 ครั้ง”
ดึงแนวคิด 4 ฤดู ออกแบบภายใน
ส่วนอาคารภายใน ออกแบบให้สะท้อนค่านิยม One Chia Tai ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวที่ “เจียไต๋” พนักงานทุกคนได้รับการปลูกฝังให้ทำงานร่วมกันเป็นทีมที่เรียกว่า One Chia Tai เพื่อเดินไปสู่จุดหมายหลักเดียวกันขององค์กร นั่นคือการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของผู้คนทั่วทั้งภูมิภาค
ภายในอาคาร จึงออกแบบด้วยแนวคิด “Growing as One – เติบโตไปด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว” ผ่านการจัดองค์ประกอบในแนวคิด “สวนหลังบ้าน” ซึ่งใช้เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบพื้นที่ของแต่ละหน่วยงาน เช่น สนามเด็กเล่น สวนเรือนกระจก สวนพฤกษา และบ้านต้นไม้ โดยทุกชั้นภายในอาคารจะมีส่วนที่เป็นสวน หรือการปลูกต้นไม้อยู่ทุกชั้น “คนเราถ้าอยู่ในสวนหรือธรรมชาติ 1 ชั่วโมง จะมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 20% การออกแบบตกแต่งภายในแต่ละชั้น ยังได้นำเอาแนวคิดของ 4 ฤดูกาล เข้ามาเป็นแนวทางในการออกแบบและตกแต่งภายในด้วย
-ชั้น 9 ที่ทำงานของหน่วยธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ซึ่งออกแบบและตกแต่งภายใต้ธีม ฤดูฝน โดยใช้สีเขียวเป็นโทนสีหลัก
-ชั้น 11 เป็นที่ทำงานของหน่วยธุรกิจสนับสนุน ออกแบบและตกแต่ง ภายใต้ธีมของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
-ชั้น 12 ที่ทำงานของหน่วยธุรกิจปุ๋ย ถูกออกแบบและตกแต่งภายใต้ธีม ฤดูร้อน โดยใช้สีเหลืองเป็นโทนสีหลัก
-ชั้น 12A สถานที่ทำงานของหน่วยธุรกิจอารักขาพืช ออกแบบและตกแต่งภายใต้ธีม ฤดูหนาว ด้วยโทนสีฟ้าเป็นโทนสีหลัก
แม้ว่าจะมีการแบ่งพื้นที่การทำงาน ในแต่ละชั้นแต่ละหน่วยธุรกิจ แต่ทุกมีการสร้างพื้นที่ให้เชื่อมต่อถึงกันได้ เดินขึ้น-ลงระหว่างชั้นได้ โดยชั้น 7 เชื่อมต่อกับชั้น 8 ชั้น 9 เชื่อมต่อกับชั้น 10 ชั้น 11-12A เชื่อมต่อถึงกันได้ และชั้น 14-15 ซึ่งเป็นส่วนสำนักงานซีอีโอและห้องทำงานของซีอีโอ ก็เชื่อมต่อระหว่างกันด้วย เป็นการออกแบบเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกัน มุ่งสู่การสร้างวัฒนธรรมในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ การทำงานร่วมกันเป็นทีม นอกจากการเชื่อมต่อระหว่างชั้นแล้ว ทุกพื้นที่ในสำนักงานใหม่ยังจัดทำในรูปแบบ Co-Working Space ที่พนักงานจากหลากหลายแผนกสามารถใช้ทำงานร่วมกันได้ด้วย
สร้าง Work – Life Balance ดึงคนรุ่นใหม่
การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว Work-Life Balance เป็นสิ่งที่สำคัญต่อความคิดสร้างสรรค์และการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ “เจียไต๋” ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นลำดับต้นๆ สำนักงานใหญ่แห่งนี้จึงออกแบบพื้นที่เพื่อส่งเสริมการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้พนักงานได้มีความสุข สนุกกับการทำงานในทุกๆ วัน
โดยมีพื้นที่ให้พนักงานสามารถผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน เช่น ฟิตเนส ห้อง Golf Simulator ซึ่งไม่ได้มีเพียงอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างครบถ้วนเท่านั้น แต่ยังมีโค้ชประจำ และมีคลาสออกกำลังกายต่างๆ เช่น คลาสโยคะ หรือเต้นซุมบ้า เพื่อส่งเสริมสุขภาพพนักงานอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังมีห้องสมุด ห้องอาหาร และยังคิดเผื่อไปถึงครอบครัวของพนักงาน จึงได้สร้างพื้นที่ Kid Room เพื่อรองรับบุตรหลานของพนักงานอีกด้วย
“เจียไต๋” ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน โดยนอกจากอาคารจะใช้วัสดุเช่น กระจก และมีเพดานที่สูงเพื่อเปิดช่องให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าได้มากที่สุด เพื่อลดการใช้พลังงานแล้ว ยังมีการติดตั้งระบบเปิด-ปิดไฟฟ้าอัตโนมัติสำหรับควบคุมไฟฟ้าภายในอาคาร ติดตั้งระบบจับความเคลื่อนไหวภายในห้องน้ำที่จะสั่งการเปิด-ปิดไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อมีคนใช้ ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งวัน และยังติดตั้งมาตรวัดปริมาณน้ำและไฟที่ใช้ในแต่ละชั้นเพื่อนำข้อมูลไปสร้างแนวทางในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม เจียไต๋สนับสนุนให้พนักงานแยกขยะ โดยจัดวางถังขยะแบบแยกประเภทเพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และรณรงค์เรื่องการแยกขยะในกลุ่มพนักงานอีกด้วย
“เรามุ่งหวังให้สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้เป็นที่ทำงานที่ทันสมัย ดึงดูดพนักงานรุ่นใหม่ๆ เป็นสถานที่ในการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ให้กับพนักงาน เพื่อให้ทุกคนแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ เจียไต๋จะฉลองครบรอบ 100 ปี ใน 2564 สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของเจียไต๋ ในการก้าวเดินสู่ศตวรรษใหม่อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง”
ปัจจุบันสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ มีพนักงานเข้าทำงานเพียง 320 คนเท่านั้น จากจำนวนพนักงานทั้งกลุ่มบริษัท 1,300 คน บางส่วนกระจายอยู่ในโรงงานบ้าง สำนักงานสาขาบ้าง และส่วนงานวิจัยในพื้นที่ต่างจังหวัดบ้าง สำนักงานใหญ่แห่งใหม่จึงยังสามารถรองรับพนักงานได้อีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ถือเป็นกำลังสำคัญ จะมาสานต่อให้ “เจียไต๋” ก้าวไปเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยผู้บริหารคาดหวังว่า การออกแบบสำนักงานให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มมิลเลนเนียม จะเป็นตัวช่วยดึงให้พวกเขาเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของ “เจียไต๋” ในอนาคต เพราะปัจจุบันยังมีพนักงานกลุ่มนี้ไม่มากนัก อายุเฉลี่ยของพนักงาน “เจียไต๋” จะอยู่ที่ 35 ปี มีอายุงานประมาณ 9 ปีเท่านั้น ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่สัดส่วนถึง 65% เป็นกลุ่มคน Gen Y
ประมวลภาพภายนอกและภายในสำนักงานใหม่เจียไต๋
ที่มา www.reviewyourliving.com