อาจเรียกว่าเป็นการกลับมาของ “รถพุ่มพวง” เวอร์ชันอัปเกรด เมื่อสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกาอย่าง Robomart ได้ต่อยอดรถขายสินค้าของตนเองไปสู่รถไร้คนขับ รวมถึงเปลี่ยนหน้าที่จากการเป็นร้านอาหารเคลื่อนที่สู่การเป็นมินิมาร์ทขนาดย่อม ๆ สำหรับช่วยแบรนด์พาสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้โดยตรง
หากใครยังจำได้ Robomart สตาร์ทอัพของสหรัฐอเมริการายนี้เคยเปิดตัวรถรุ่นโปรโตไทป์ไปเมื่อปี 2018 ก่อนจะเริ่มพัฒนาบริการรถขนส่งสินค้าออกมาเจาะตลาดค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงปี 2020 เมื่อผู้บริโภคในยุคนั้นปฏิเสธการไปซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไปรับประทานอาหารในร้านอย่างสิ้นเชิง และหันไปซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ แทน จนทำให้ธุรกิจค้าปลีกต้องขึ้นไปปรากฏตัวอยู่บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซกันเป็นการใหญ่
แต่ความท้าทายของธุรกิจค้าปลีกเมื่อขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านั้นก็คือ การค้นหาสินค้ายาก หรือการอัปเดตสินค้าคงเหลือผิดพลาด จนผู้บริโภคบางรายกดสั่งซื้อไปแล้ว ตัดเงินไปแล้ว เพิ่งมาได้รับคำตอบว่าสินค้าไม่มีขาย ซึ่งพวกเขาอาจต้องยกเลิกออเดอร์ คืนเงิน ฯลฯ ที่ทำให้รู้สึกไม่ดีกับร้านค้ามากขึ้นไปอีก
ทาง Robomart เลยนำรถของตนเองเข้ามาแทรกในตลาดนี้ และเพิ่มฟังก์ชันให้รถสามารถใส่ตู้ทำความเย็น สำหรับขายไอศกรีม หรือตู้ทำความร้อนสำหรับอบพิซซ่า หรือจะบรรจุสินค้าอุปโภค ยารักษาโรค ฯลฯ ได้เพิ่มเติม ก่อนจะเปิดให้แบรนด์จำนวนหนึ่งมาเช่ารถของบริษัทไปใช้งาน โดยรถรุ่นแรกเป็นรถแวนขนาดเล็ก ที่ผู้บริโภคสามารถสั่งสินค้า – รับสินค้า – ชำระเงินได้ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส และตัวรถมีคนขับมาด้วย แต่คนขับจะทำหน้าที่ขับรถเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการขายสินค้าแต่อย่างใด
2023 ถึงเวลาแต่งตัวใหม่ เป็นมินิมาร์ทไร้คนขับ
แต่สำหรับปี 2023 เมื่อเมืองต่าง ๆ เริ่มกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง ก็อาจถึงเวลาที่ Robomart จะปรับโฉมตัวเองรอบใหม่ สู่การเป็นผู้ช่วยธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ ให้เป็นที่รู้จัก – จดจำของผู้บริโภคมากขึ้น โดยการพัฒนารอบนี้ มาพร้อมการได้รับเงินทุนรอบใหม่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 70.63 ล้านบาทด้วย
สิ่งที่ทางบริษัทพัฒนาเพิ่มคือ Haven เป็นรถคันใหญ่ สามารถบรรจุสินค้าได้สูงสุดถึง 300 รายการ รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ 2,000 กิโลกรัม และวิ่งได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง โดย Haven จะเป็นรถไร้คนขับ เน้นให้บริการแก่ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต – ค้าปลีก และคาดว่าจะเริ่มวิ่งบนถนนจริงได้ในปี 2025
นอกจากนี้ Robomart ยังบอกด้วยว่า แบรนด์ที่มาเช่ารถยังสามารถติดป้ายโฆษณาบนตัวรถได้ ซึ่งเท่ากับได้สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ไปในตัว รวมถึงได้ทำความรู้จักผู้ซื้อจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทด้วย โดยในตอนนี้ Robomart มีธุรกิจค้าปลีก – ร้านอาหาร – ซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐอเมริกา มาเซ็นสัญญาเช่ารถของทาง Robomart ไปแล้วประมาณ 100 คัน