ปัจจุบันต้องยอมรับว่า “ผู้หญิง” เข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้นทั้งการเป็นผู้นำในระดับภายในองค์กรจนถึงระดับประเทศจากความสามารถที่เทียบเท่ากับผู้ชายจนสามารถนำพาประเทศและองค์กรไปสู่เป้าหมาย ซึ่งวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี ถือเป็นวันสตรีสากล วันนี้ We are CP จึงได้มีโอกาสสัมภาษณ์ตัวแทนผู้บริหารรวมไปถึงพนักงานรุ่นใหม่ เกี่ยวกับพลังของผู้หญิงในการขับเคลื่อนองค์กรและประเทศ พร้อมเคล็ดลับการทำงานภายในเครือเจริญโภคภัณฑ์
คุณพัชรี คงตระกูลเทียน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ สำนักกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เครือฯ เป็นหนึ่งผู้บริหารหญิงที่ทำงานอยู่กับเครือฯมานานถึง 43 ปี จากตำแหน่งพนักงานโต้ตอบจดหมาย เพราะตนเองสามารถสื่อสารได้ 3 ภาษา คือ ไทย จีน และอังกฤษ ให้กับคุณเอี่ยม งามดํารงค์ รองประธานอาวุโส เครือฯ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ
คุณพัชรี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นพนักงานหญิงของเครือฯ ไม่เคยรู้สึกมีแรงกดดันในการทำงาน การที่ผู้บริหารหลายคนในเครือฯมอบหมายงานให้จึงไม่มีความรู้สึกว่าทำไม่ได้ เว้นแต่เป็นงานที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ทำให้ต้องสอบถามหัวหน้างานถึงความมั่นใจในการมอบหมายงานให้ และหากหัวหน้างานมีความเชื่อและมั่นใจในตัวเรา ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารในเครือฯไม่เคยแบ่งแยกว่างานนี้เหมาะสำหรับผู้หญิงหรืองานนี้เหมาะสำหรับผู้ชาย แต่ดูที่ความมุ่งมั่นในการทำงานว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเองจะได้รับงานที่เป็นเรื่องของการสร้างสิ่งใหม่ หรือวางระบบใหม่ ทำให้ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา และไม่รู้สึกว่างานที่ทำนั้นจำเจแต่กลับมีคุณค่า มีความภาคภูมิใจที่งานประสบความสำเร็จ เพราะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบใหม่ๆให้กับเครือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริหารความเสี่ยง ประกันภัย ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน นวัตกรรม หรือโครงการพอใจวันเดียว และซีพีเพื่อความยั่งยืน และล่าสุดกับโครงการ we grow ปลูกเพื่อความยั่งยืน ที่รณรงค์ให้ทุกบริษัทในเครือฯปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตนเอง
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีความรู้สึกว่าผู้ชายภายในเครือฯไม่ให้ความสำคัญกับผู้หญิง ซึ่งตัวเราเองต้องพิสูจน์ว่าความรู้ที่เรามีอยู่ในเรื่องที่กำลังจะคุย ความจริงใจ มิตรภาพและการให้เกียรติคนที่ติดต่อ ตรงนี้ต่างหากที่จะสร้างให้เขายอมรับหรือไม่ยอมรับในตัวเรา” คุณพัชรีกล่าว
คุณพัชรี ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเครือฯไม่มีนโยบายแบ่งแยกผู้หญิง แต่ด้วยเครือฯดำเนินธุรกิจด้านการเกษตรเป็นหลักและงานส่วนใหญ่ต้องลงพื้นที่ ทำให้เห็นว่ามีแต่ผู้บริหารที่เป็นผู้ชาย แต่ในส่วนของสำนักงานหรืองานหลังบ้าน ยังมีพนักงานที่เป็นผู้หญิง ยิ่งในปัจจุบันมีผู้หญิงเรียนจบในสายด้านวิศวะเพิ่มมากขึ้นหรือสายงานที่ส่วนใหญ่เคยมีแต่ผู้ชาย
ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าอัตราส่วนผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชายและด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และการที่เครือฯให้โอกาสผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำนั้น เครือฯไม่ได้มองว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต่างกัน แต่อยู่ที่ว่าคนๆนั้นมีความเก่งและความสามารถเพียงพอต่อการขึ้นมาในตำแหน่งสูงหรือไม่ ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือต้องพิสูจน์ตัวเราเองว่ามีความสามารถ ความรู้และความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำได้หรือไม่
“ผู้บริหารหลายคนในหลายประเทศ เห็นเราทำงานและปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท ซึ่งเราอยากบอกว่า คำว่าซีพีมันอยู่ในสายเลือด แต่ในขณะเดียวกันพี่คิดว่าความภาคภูมิใจนั้น เรามีผู้นำที่ดีมากก็คือท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ ส่วนที่สองคือปรัชญาตั้งแต่ผู้ก่อตั้งองค์กรในเรื่องของสามประโยชน์และคุณธรรม ซึ่งนี่คือรากฐานที่ปูพื้นทำให้เครือมาถึง 100 ปี และที่สำคัญคือพี่ได้ครูดีที่เป็นทั้งหัวหน้างาน ครูดีที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำ และสร้างสรรค์พื้นฐานและสิ่งใหม่ๆ” คุณพัชรีกล่าว
ด้าน คุณปวีณา ขจัดโรคา ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงานพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล เเละสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นอีกหนึ่งสาวคนรุ่นใหม่ที่ต้องลงพื้นที่ทำงานร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ทำให้มองข้ามปัญหาในเรื่องของสภาพร่างกายที่ผู้หญิงอาจจะมีข้อจำกัดในการทำงาน
และมองว่าผู้ชายกับผู้หญิงมีความเท่าเทียมกัน อยู่ที่ว่าใครจะลุกขึ้นมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ก่อนกัน หากมองอีกด้านจะเห็นว่ามีผู้หญิงในหลายประเทศ เป็นผู้นำ เป็นประธานาธิบดี และมีบทบาทมากขึ้น เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายๆคนที่จะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนประเทศได้
ขณะที่ภายในเครือฯ ผู้หญิงสามารถมีบทบาทในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการยึดนโยบายของเครือฯเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องสามประโยชน์ ซึ่งเราสามารถเป็นพลังในด้านนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประเทศชาติที่เราขับเคลื่อน ในเรื่องสังคมหรือชุมชนที่เราเข้าไปช่วยพัฒนา และองค์กรต้องได้ในส่วนนั้นเช่นกัน ดังนั้นการจะเป็นผู้นำ ถ้าเรายึดมั่นเป็นแนวทาง เชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างตรงจุด
“การเปิดโอกาสของเครือฯที่ให้โอกาสผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สิ่งแรกเลยที่เรารู้สึกได้ คือ เครือฯให้ความสำคัญกับผู้หญิงที่พร้อมจะก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำ ดังนั้นสิ่งที่การจะก้าวมาสู่การเป็นผู้นำ เราคงเป็นไม่ได้เพียงแค่คนเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ เราต้องมีทีม
ซึ่งทีมเราก็ประกอบไปด้วยทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เราเชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า การที่เราแสดงศักยภาพให้กับทีมได้เห็น หมายความว่าเป็นโอกาสหนึ่งที่องค์กรมองแล้วว่าเราขับเคลื่อนตรงนั้นได้ ดังนั้นในส่วนตรงนี้ถ้าเราได้รับโอกาสอย่างจริงจัง ทำไมเราไม่ทำตรงนั้นให้เต็มที่ในเมื่อเรามีโอกาส
ก็เลยอยากบอกกับทุกคนว่า จริงๆทุกคนมีโอกาส ก็ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆฝึกไป แล้วยิ่งถ้าเรามีคนที่เป็นไอดอลในเครือฯก็แล้วแต่ จริงๆเราเห็นจากหลายๆท่าน ซึ่งก็เชื่อว่าพนักงานหลายๆคนก็อยากไปถึงจุดนั้น และทางเครือฯก็ได้ให้โอกาสตรงนี้ เชื่อว่าน่าจะขับเคลื่อนไปได้เร็วมากขึ้นค่ะ” คุณปวีณากล่าว
และเนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคมนี้ We are CP ขอส่งกำลังใจให้ผู้บริหารและเพื่อนพนักงานผู้หญิงทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรงและเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเครือซีพีก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ก้าวไกล รับผิดชอบสังคมอย่างยั่งยืน