จากซ้ายไปขวา 1. “Prof. Dr. Mazlan Abdul Ghaffar” รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) 2. “ดร.อธิป อัศวานันท์” ผู้บริหารสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล เครือเจริญโภคภัณฑ์ 3. “Mr. Mohamed Khaled Nordin” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา ประเทศมาเลเซีย
ชุมชนประมงเซดิลี เคชิล อำเภอโกตาติงกี รัฐยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย – 25 สิงหาคม 2566 : “เครือเจริญโภคภัณฑ์” โดย “ดร.อธิป อัศวานันท์” ผู้บริหารสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ “นางสาวอรดา วงศ์อำไพวิทย์” รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความยั่งยืนภาคกิจกรรมสัมพันธ์และการศึกษา สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย “ผู้บริหารทีมชุมชนสัมพันธ์” ส่งมอบ “Seaco Incubator (นวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำระบบอัตโนมัติ)” ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เครือเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการลดลงของทรัพยากรสัตว์น้ำแก่ชุมชนชายฝั่งทั่วประเทศไทย โดยได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ และอนุสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 2561 และได้รับรางวัลนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยมีผู้แทนรัฐบาลมาเลเซียรับมอบ ได้แก่ “Mr. Mohamed Khaled Nordin” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา และ “Prof. Dr. Mazlan Abdul Ghaffar” รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าในการพัฒนาบุคคลากรประมงและการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เพื่อฟื้นฟูสัตว์น้ำและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ชาวประมงอย่างรอบด้าน โดยภายในงานมีชาวประมง นักวิชาการ ภาครัฐ-เอกชน และสื่อมวลชนจากประเทศมาเลเซียเข้าร่วมชมนวัตกรรมกว่า 500 ราย
ในการนี้ ท่านรัฐมนตรี “Mr. Mohamed Khaled Nordin” และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) “Prof. Dr. Mazlan Abdul Ghaffar” ได้มอบประกาศนียบัตรเพื่อแสดงความขอบคุณ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ในการสนับสนุน “Seaco Incubator” ซึ่งมีการนำไปใช้ประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ติดทะเลชายฝั่งทั่วประเทศไทยรวมถึง “ศูนย์ความร่วมมือ ชมรมประมงพื้นบ้าน ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี” โดยบูรณาการความร่วมมือกับ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2019 ส่งผลให้มหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) ประเทศมาเลเซีย เล็งเห็นถึงโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และสานต่อความร่วมมือระดับประเทศ
ดังนั้น ทางมาเลเซียจึงขอการถ่ายทอดนวัตกรรมจาก “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ในการสนับสนุน “Seaco Incubator” แก่ประเทศมาเลเซียใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1) ชุมชนประมงเซดิลี เคชิล อำเภอโกตาติงกี รัฐยะโฮร์บาห์รู 2) มหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) และ 3) ชุมชนประมงในรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย เพื่อส่งเสริมการผลิตลูกปูม้าและปูทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ดังเช่นที่เครือฯ สามารถเพิ่มปริมาณลูกปูม้ากลับสู่ท้องทะเลไทยอย่างต่อเนื่องกว่า 8 พันล้านตัวในช่วงระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้แทนประเทศมาเลเซียมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ว่าจะนำไปสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ตามแนวทางความสำเร็จในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเครือฯ ในประเทศไทย โดยภายในงานดังกล่าวมีสื่อมวลชนระดับชาติของมาเลเซีย ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ และออนไลน์ ให้ความสนใจทำข่าวและเผยแพร่ถึงความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการตอกย้ำถึงการเป็น “องค์กรเอกชนต้นแบบด้านความยั่งยืน” ของ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ที่มีการส่งต่อแนวคิด องค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านความยั่งยืนสู่การยอมรับในระดับสากลอย่างแท้จริง
Link ข่าวจากสื่อมวลชนประเทศมาเลเซีย>> https://www.utusan.com.my/berita/2023/08/jadikan-kampung-tradisional-lapangan-ujian-makmal-khaled/ >>