ภาพโดย Graham Hobster จาก Pixabay
สิงคโปร์เตรียมเปิดวีซ่าทำงาน Work Pass ใหม่สำหรับผู้มีความสามารถสูงจากทุกภาคเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2023 โดยมีเกณฑ์เงินเดือนขั้นต่ำ 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับการขอวีซ่าใหม่ที่มีชื่อว่า Overseas Networks & Expertise Pass ขณะที่ผู้ที่มี“ผลงานโดดเด่น” ในด้านเทคโนโลยี ศิลปะ วิชาการ หรือกีฬา ก็จะผ่านการพิจารณาแม้ว่าจะไม่ผ่านเกณฑ์เงินเดือนตาม
ดร.ตัน ซี เล้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (29 ส.ค.) ถึง การออกวีซ่าทำงานเพื่อให้ผู้มีรายได้สูงและผู้ที่มีผลงานโดดเด่นสามารถพำนักอยู่ในสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องหางานทำในสิงคโปร์ก่อน
ความคิดริเริ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อประกันว่าสิงคโปร์สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่ระดับโลกเพื่อดึงตัวผู้มีความสามารถสูง
Overseas Networks & Expertise Pass จะออกให้กับผู้ที่มีความสามารถจากภาคเศรษฐกิจใดก็ และได้รับเงินเดือนตั้งแต่ 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ขึ้นไป หรือมี “ผลงานที่โดดเด่น” ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศิลปะและวัฒนธรรม การวิจัยและวิชาการ หรือกีฬา
ภายใต้เกณฑ์เงินเดือน ผู้ยื่นขอจะต้องให้เห็นว่าได้รับเงินเดือนคงที่อย่างน้อย 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ในปีที่แล้ว หรือแสดงว่าจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำในจำนวนเงินเท่านี้ จากนายจ้างในอนาคตในสิงคโปร์
ผู้ยื่นขอจากต่างประเทศจะต้องแสดงให้เห็นว่าได้ทำงานหรือจะทำงานให้กับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว ซึ่งหมายถึงบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอย่างน้อย 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ว่าจะอยู่มีตำแหน่งงานใดในต่างประเทศ ณ วันที่ยื่นขอวีซ่า หรือ บทบาทในอนาคตเมื่ออยู่ในสิงคโปร์
ดร.ตัน กล่าวในการแถลงข่าวว่า เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเสริมสร้างสถานะของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับผู้ที่มีความสามารถสูงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ หลังจากสิงคโปร์ผ่านพ้นการระบาดใหญ่จนเข้าสู่ช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
โดยชี้ว่ามีบางประเทศมองหาจากในประเทศ แต่หลายประเทศกำลังแข่งขันเพื่อช่วงชิงความเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับผู้ที่มีความสามารถ และกล่าวว่า “ในบรรยากาศแบบนี้ เราต้องมีความชัดเจนว่าสิงคโปร์ยืนอยู่ตรงไหน เราปล่อยให้นักลงทุนสงสัยหรือมีคำถามว่าสิงคโปร์ยังเปิดอยู่หรือไม่ ไม่ได้เลย
“ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ธุรกิจต้องแสวงหาคนที่มีความสามารถ เช่นเดียวกับผู้ที่มีความสามารถต้องแสวงหาธุรกิจ ทั้งธุรกิจและผู้มีความสามารถต่างต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมั่นคงในการลงทุน ใช้ชีวิตและทำงาน สิงคโปร์ก็ตอบโจทย์”
ความคิดเห็นของดร.ตัน ตอกย้ำความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ที่กล่าวในขบวนพาเหรดฉลองวันชาติประจำปี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมว่า สิงคโปร์จะต้องสร้าง “แหล่งรวมผู้มีความสามารถระดับโลก” โดยการพัฒนากำลังแรงงานของตนเองควบคู่การดึงดูดผู้มีความสามารถจากต่างประเทศต่อเนื่อง
“เราต้องการให้ผู้ที่ความสามารถระดับแนวหน้าในทุกๆ ที่ ให้ความสนใจ และคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการมาสิงคโปร์” นายลีกล่าว
นายลีกล่าวว่า ประเทศต่างๆ กำลังพยายามเป็นพิเศษในการชักชวนผู้ที่มีความสามารถระดับนานาชาติ โดยชี้ว่า เยอรมนีและสหราชอาณาจักรเป็นตัวอย่าง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เยอรมนีอนุญาตให้มืออาชีพต่างชาติที่มีฝีมือเข้ามาพำนัก ก่อนที่พวกเขาจะได้งานทำเสียอีก
สหราชอาณาจักรเปิดตัววีซ่าบุคคลที่มีศักยภาพสูง(High-Potential Individual Visa ) ในปีนี้สำหรับผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาจาก 50 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกนอกสหราชอาณาจักร โดยมีมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางรวมอยู่ด้วย
นายลีกล่าวว่า“ในการแข่งขันดึงระดับโลกเพื่อดึงผู้ที่มีความสามารถนี้ สิงคโปร์ยอมไม่ได้หากคนเก่งถูกคว้าตัวไป หรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”
Overseas Networks & Expertise Pass ใช้ได้กับทุกภาคเศรษฐกิจ ต่างจาก Tech.Pass ที่เปิดตัวในเดือนมกราคมปีที่แล้วที่มีไว้สำหรับผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี ผู้นำ หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ผู้ที่ยื่นขอไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์เงินเดือน 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หากมี “ผลงานที่โดดเด่น” ในด้านศิลปะ กีฬา วิทยาศาสตร์ และ/หรือวิชาการ โดยการวัดผลงานที่โดดเด่นนั้นสามารถใช้เงินเดือนเป็นตัวแทนได้
แต่วีซ่าทำงานประเภทนี้มีเป้าหมายผู้ที่มีความสามารถสูงในระดับท้อป 5% หรือ 2-3% ของโลกในทุกภาคเศรษฐกิจ
เกณฑ์เงินเดือนมาตรฐานที่ 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์นั้นเทียบได้กับผู้ถือใบอนุญาตทำงาน(Employment Pass:EP) สูงสุด 5 อันดับแรกในสิงคโปร์
กระทรวงแรงงานจะทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องในสาขาเหล่านี้เพื่อวางเกณฑ์ความสามารถ ซึ่งบางหน่วยงานมีเป้าหมายอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น หน่วยงานสามารถติดต่อผู้ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ เช่น Fields Medal ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนักคณิตศาสตร์ดีเด่น
สำหรับภาคเศรษฐกิจที่อาจได้รับประโยชน์จากวีซ่าทำงาน ใหม่ ดร.ตัน กล่าวว่า นาจะเป็นเศรษฐกิจสีเขียวที่เทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นและมีโอกาสใหม่ๆ มากมาย
วีซ่าทำงานใหม่เป็นวีซ่าที่พิจารณาเป็นรายบุคคล จึงไม่มีผลต่อผู้ยื่นขอที่ทำงานในสิงคโปร์ ซึ่งแตกต่างจาก Employment Passes (EP) ทั่วไป ผู้ถือวีซ่าทำงานนี้ามารถเริ่มต้น ดำเนินการ และทำงานให้กับบริษัทหลายแห่งในสิงคโปร์ได้ตลอดเวลา คล้ายกับ Personal Employment Pass (PEP) ที่มีอยู่ซึ่งอนุญาตให้ชาวต่างชาติเปลี่ยนนายจ้างโดยไม่ต้องสมัคร EP ใหม่ และอยู่ในสิงคโปร์ได้นานถึง 6 เดือนในขณะที่กำลังมองหางาน
แต่ Overseas Networks & Expertise Pass จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เนื่องจากไม่มีเงื่อนไขว่าผู้ถือวีซ่านี้มีเวลา 6 เดือนในการหางาน และยังอนุญาตให้มีผู้ติดตามเข้ามาในสิงคโปร์และคู่สมรสสามารถทำงานโดยมีหนังสือยินยอมได้ ขณะที่วีซ่าทำงานอื่นๆ มีเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าสำหรับคู่สมรสที่จะทำงานในสิงคโปร์
เมื่อเทียบกับบัตรผ่านงานที่มีอยู่ Overseas Networks & Expertise Pass จะมีอายุเวลานานกว่าคือ 5 ปี ส่วน EP ได้ 2 ปี(สำหรับผู้ยื่นรายใหม่) และ 3 ปีสำหรับ PEP
ที่มา ไทยพับลิก้า