Global Canopy – องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ต่อต้านการทำลายป่าเขตร้อน (สำนักงานอยู่ในอังกฤษ) ได้ออกรายงานประจำปี 2018 เพื่อประเมินบริษัทขนาดใหญ่ ห้างค้าปลีก และสถาบันการเงิน รวม 500 รายเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อยุติการทำลายป่าเขตร้อนจากการจัดหาวัตถุดิบ ได้แก่ น้ำมันปาล์ม ถั่วเหลือง ไม้ กระดาษ เนื้อวัวและเครื่องหนัง
(ดูรายละเอียดที่ http//forest 500.org)
ผลการประเมิน พบว่า
• ในกลุ่มผู้ผลิต : Nestle มีผลการประเมินดีที่สุด (88%) รองลงมา คือ Kao, Unilever, Mars และ L’Oreal
• ในกลุ่มค้าปลีก : ห้าง M&S มีผลการประเมินดีที่สุด (63%) รองลงมา คือ Ikea, News Corp, Mc Donald’s และ Pearson
• ในกลุ่มสถาบันการเงิน : Rabobank มีผลการประเมินดีที่สุด (57%) รองลงมา คือ BNP Paribas, HSBC, Deutsche Bank และ ING Group
ทั้งนี้
• 57% ของผู้ผลิตและค้าปลีกให้คำมั่นที่จะยุติการทำลายป่าใน supply chain ของวัตถุดิบอย่างน้อย 1 ชนิด
• น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบที่มีการให้คำมั่นต่อการยุติการทำลายป่ามากที่สุด ขณะที่มีเพียง 16% ที่ให้คำมั่นต่อการยุติการทำลายป่าต่อการเลี้ยงวัวเนื้อ
• สถาบันการเงินส่วนใหญ่ยังไม่มีนโยบายไม่สนับสนุนทางการเงินต่อธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการทำลายป่า
อนึ่ง Global Canopy ได้ทำการประเมินบริษัทเกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบหรือวัสดุจากเยื่อกระดาษและกระดาษมากที่สุด (290 ราย) รองลงมา คือ น้ำมันปาล์ม (196 ราย) ถั่วเหลือง (168 ราย) เนื้อวัวและเครื่องหนัง (129 ราย) และผลิตภัณฑ์ไม้ (69 ราย)
——————————