นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไนช่วงครึ่งปีหลังยังน่าจะเห็นการเติบโตได้ แต่อาจชะลอตัวจากครึ่งปีแรกบ้าง เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพราะทำให้ต้นทุนสินเชื่อของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ชะลอการซื้อไปก่อนในระยะสั้นเพื่อรอดูสถานการณ์ แม้ว่าทิศทางเศรษฐกิจของไทยจะยังเติบโตได้ดี จากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาตามปกติ และภาคการท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นและคนมีรายได้กลับมามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่กดดันกำลังซื้อ และชะลอการซี้อสินค้าบางกลุ่มที่อาจจะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนมาก ดังนั้น ที่อยู่อาศัยน่าจะเป็นกลุ่มสินค้าที่คนอาจจะชะลอการซื้อลงไปบ้างในช่วงครึ่งปีหลัง หากสถานการณ์ของเงินเฟ้อและค่าครองชีพยังสูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่จะเริ่มเห็นการกลับมาตัดสินใจซื้อหากสถานกานณ์ต่างๆ คลี่คลายลงชัดเจน ทำให้ความมั่นใจกลับมา
“ถ้าดอกเบี้ยขึ้นจะเป็นแรงฉุดโมเมนตั้มการฟื้นตัวของภาพรวมของประเทศไทยและภาคอสังหาฯให้ต้องสะดุด และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศและภาคอสังหาฯด้วย” นายวิชัย กล่าว
ด้านการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจะเริ่มเห็นว่ามีการพัฒนาโครงการในระดับราคาที่ลดลงมาเพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมภายใต้ BOI ระดับราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มที่ซื้ออยู่จริงและกลุ่มนักลงทุน โดยมองว่าตลาดคอนโดมิเนียมยังคงเป็นเทรนด์ของกลุ่มราคาที่จับต้องได้ง่ายใกล้รถไฟฟ้า หรือมีการขยายออกไปตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่รอบนอกเมืองมากขึ้น เพื่อจับกลุ่มลูกค้าในตลาดที่ยังมีฐานเป็นจำนวนมาก และสามารถเข้าถึงได้กับคนหลากหลายกลุ่ม แต่น่าจะยังมีการเปิดโครงการใหม่ไม่มากนักในปีนี้ เพราะตลาดยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างชัดเจน
ส่วนโครงการแนวราบยังคงเห็นการเปิดโครงการใหม่ออกมาจำนวนมากอย่างต่อเนื่องทั้งจากผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากโครงการแนวราบยังได้รับความสนใจมาก โดยเฉพาะความต้องการพื้นที่ใช้สอยเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวมากกว่าคอนโดมิเนียม และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้ที่ต้องการมีครอบครัว ทำให้มีความต้องการซื้ออยู่อาศัยจริง ตลาดแนวราบจึงยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงโควิด-19 ก็ตาม
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ปี 65 ยังคงเป็นปีที่เป็นโอกาสที่ดีของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่มีความพร้อม โดยเฉพาะโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ แม้ว่าผู้ประกอบการจะไม่ได้ปรับลดราคาลงมามากเหมือนกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด แต่ยังคงเห็นการทำแคมเปญการตลาดในการกระตุ้นการขาย ทั้งการแถมเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ฟรีค่าส่วนกลาง เป็นต้น รวมถึงให้ดอกกเบี้ยพิเศษร่วมกับพันธมิตรธนาคาร ซึ่งทำให้ผู้ซื้อยังคงได้ความคุ้มค่า โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมพร้อมทำเลดีๆที่อยู่ในเมืองที่ยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ซื้อที่มีความพร้อม
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์