ปลื้มส่งออกไทย ก.ย.65 โต 7.8% มูลค่า 888,371 ล้านบาท เผยส่งออก 9 เดือนแรกปีนี้พุ่ง 10.6% ร่วม 7.5 ล้านล้านบาท ผลบวกโควิดคลี่คลาย-เปิดประเทศ ค้าชายแดนยังดี 9 เดือนแรก บวก 19.3% เกือบ 4.9 แสนล้านบาท คาดปีนี้โตทะลุเป้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือนก.ย.65 มีมูลค่า 24,919 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 4.3.-4.4% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 25,772 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เดือนก.ย. ไทยขาดดุลการค้า 853.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนในช่วง 9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.65) มูลค่าการส่งออกรวม อยู่ที่ 221,366 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10.6% มูลค่าการนำเข้ารวม อยู่ที่ 236,351 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 20.7% ส่งผลให้ไทย 9 เดือน ไทยขาดดุลการค้า 14,985 ล้านเหรียญสหรัฐ เชื่อว่า การส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยคาดว่าทั้งปีนี้ การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ราว 8% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4% มั่นใจว่าการส่งออกไตรมาส 4 ยังจะขยายตัวได้ดี และยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจปีนี้ คาดว่าส่งออกจะโตได้เท่าตัวจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4
สำหรับปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกของไทยในเดือน ก.ย.65 ยังขยายตัวได้ดีมาจาก 1.กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชน เริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย 2.ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มคลี่คลาย ทำให้การผลิตสินค้าที่มีชิปเป็นส่วนประกอบสามารถกลับมาผลิตได้ตามความต้องการของตลาด 3.เงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลดีต่อราคาส่งออกสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะสินค้าข้าว ซึ่งคาดว่าปีนี้จะสามารถส่งออกข้าวได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7 ล้านตัน
โดยการส่งออกสินค้าในเดือนก.ย. เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม จะพบว่า สินค้าเกษตร กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน โดยขยายตัว 2.7% ที่มูลค่า 2,005 ล้านเหรียญ สินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ดี คือ ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง และแปรรูป, ผลไม้แช่แข็ง และผลไม้แห้ง,ข้าว สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 โดยขยายตัว 0.8% ที่มูลค่า 1,734 ล้านเหรียญ สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวได้ดีคือ ไอศกรีม, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป,น้ำตาลทราย และอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 เช่นกัน โดยขยายตัว 9.4% ที่มูลค่า 20,234 ล้านเหรียญ สินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีคือ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องใช้สำหรับเดินทาง, รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศ
ทั้งนี้ตลาดส่งออกสำคัญในเดือน ก.ย.นี้ ที่ขยายตัวได้ในระดับสูง 10 อันดับแรก คือ อันดับ 1 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขยายตัว 70% อันดับ 2 สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ขยายตัว 51.5% อันดับ 3 ซาอุดีอาระเบีย ขยายตัว 36.7% อันดับ 4 CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ขยายตัว 26.3% อันดับ 5 สหรัฐอเมริกา ขยายตัว 26.2% อันดับ 6 สหภาพยุโรป ขยายตัว 18% อันดับ 7 ออสเตรเลีย ขยายตัว 15.5% อันดับ 8 แคนาดา ขยายตัว 10.6% อันดับ 9 อาเซียน (5) ขยายตัว 9% และอันดับ 10 ลาตินอเมริกา ขยายตัว 6.3%
นายจุรินทร์กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีน หลังจากที่นายสี จิ้นผิง ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนต่อไปอีกเป็นสมัยที่ 3 ว่า เชื่อว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย-จีน จะยังคงดำเนินไปได้ดี และหากจีนผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid จะยิ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งด้านการค้า และการท่องเที่ยวระหว่างกันให้ดีขึ้น
“การที่นายสี จิ้นผิง ยังเป็นผู้นำของจีนต่อไปยังมองไม่เห็นว่าจะมีสัญญาณอะไรที่เป็นลบ ทุกอย่างยังดำเนินไปได้ด้วยดี แต่หากจีนผ่อนคลาย Zero Covid ก็จะทำให้เกิดความเชื่อมโยงการค้าไทยจีน ช่วยเพิ่มมูลค่าทั้งการค้า การท่องเที่ยวระหว่างกันได้ดีขึ้น”
สำหรับภาวะการค้าชายแดนในเดือนก.ย.65 ด้วยว่า มีมูลค่าการค้ารวม 90,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.3% โดยคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 57,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% โดยคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย คือ มาเลเซีย โดยไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 16,675 ล้านบาท รองลงมา อันดับ 2 กัมพูชา ไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 15,136 ล้านบาท อันดับ 3 ลาว ไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 12,947 ล้านบาท และอันดับ 4 เมียนมา ไทยส่งออกไปเป็นมูลค่า 12,259 ล้านบาท
โดยปัจจัยสนับสนุนการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2565 มาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อมูลค่าราคาสินค้าของไทย รวมทั้งปัจจัยจากราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้น และความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าหมายการส่งออกการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 2565 ว่าจะขยายตัวได้ 5% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.08 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) สามารถทำได้แล้ว 71.5% ของเป้าหมาย
ที่มา สยามรัฐ