นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กรมฯ จับมือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชในไต้หวัน นำโดย “PChome” แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่ในไต้หวัน ที่มีฐานลูกค้าครอบคลุม 67% ของจำนวน online shoppers ในไต้หวัน เพื่อจะผลักดันสินค้าไทยคุณภาพเข้าสู่ตลาดออนไลน์ไต้หวัน เช่น อาหาร สุขภาพความงาม แฟชั่นไลฟ์สไตล์ สินค้าออกแบบ และสินค้า Bio-Circular-Green (BCG) ที่มุ่งเน้นให้เกิดความยั่งยืนในการผลิตและบริโภค เสริมภาพลักษณ์ทางการค้าที่ดีให้กับสินค้าไทยภายใต้กระแสรักษ์โลก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. PChome ได้แถลงข่าวเปิดตัว PChome Thai ThaiShopping ณ เมืองไทเป ไต้หวัน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงผู้บริโภคไต้หวันได้โดยตรง เหมาะกับ SMEs ที่ต้องการขยายโอกาสในการส่งออกสินค้า Made in Thailand ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าสู่ตลาดไต้หวัน รวมถึงผู้ประกอบการที่ยังอยู่ระหว่างหาผู้นำเข้าในไต้หวัน และต้องการทดลองตลาด
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เปิดตัวร้าน TOPTHAI STORE บน PChome จำหน่ายสินค้า BCG ของไทย สอดรับกับนโยบายการผลักดันเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยการค้าออนไลน์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในการรุกตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับโลกการค้าในยุค New Normal โดยกรมฯ คาดหวังว่าการร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ จะสามารถการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย ในการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ของไต้หวันได้มากขึ้น
ด้าน น.ส.กัลยา ลีวงศ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา (ส่วนที่ 2) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ไต้หวัน กล่าวว่า PChome (เว็บไซต์ https://www.pchome.co.th/tw) มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในไต้หวัน ปัจจุบันมีสินค้าไทยวางจำหน่ายอยู่กว่า 3,000 รายการ โดย PChome เห็นถึงศักยภาพของสินค้าในการขยายตลาดในไต้หวัน สินค้าไทยจึงเป็นสินค้าต่างชาติประเทศที่ 2 รองจากญี่ปุ่น ที่ PChome นำมาวางขายบน platform online ของ PChome โดยสำนักงานฯ มีแผนจะร่วมกับ PChome ในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากยิ่งขึ้นในไต้หวัน
ในขณะเดียวกัน สำนักงานฯ ยังมีแผนจะร่วมมือกับ PINKOI online marketplace (เว็บไซต์ https://th.pinkoi.com) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมงานคราฟท์ และสินค้ามีดีไซน์จาก 18,000 แบรนด์ทั่วโลก จัดสัปดาห์สินค้าดีไซน์ของไทยในช่วงเดียวกับที่สำนักงานฯ จะนำสินค้าไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Creative Expo Taiwan ณ เมืองเกาสง ไต้หวัน ในเดือนส.ค.นี้
สำหรับฐานลูกค้า PINKOI ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่นิยมสินค้าออกแบบ ปัจจุบันมีสินค้าไทยวางขายอยู่บน PINKOI รวมกว่า 3,600 รายการแล้ว และสินค้าไทยเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง รองจากสินค้าญี่ปุ่น เนื่องจากการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็นสากล
นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังมีแผนร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทย ในการคัดสรรสินค้าไทยที่เป็น Product Champion ของแต่ละภูมิภาคไปจำหน่ายในเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าทางแพลตฟอร์มออนไลน์ของไปรษณีย์ไต้หวัน Chunghwa Post (เว็บไซต์ https://www.postmall.com.tw/searchResult.aspx?search=%E6%B3%B0%E5%9C%8B&rn=-6737) โดยอาศัยจุดเด่นของไปรษณีย์ที่เข้าถึงลูกค้าได้ถึงในระดับชุมชน
ความร่วมมือของกรมฯ กับ platform online ในไต้หวันทั้งหมดนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย บุกตลาดการค้าออนไลน์แบบข้ามพรมแดนได้อย่างเข้มแข็ง ขยายการรับรู้สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดไต้หวันอย่างกว้างขวาง และนำไปสู่การขยายตลาดไต้หวันได้อย่างยั่งยืนต่อไป โดยตลาดไต้หวันเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีศักยภาพในการซื้อสูง ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
สำหรับการค้าปลีกออนไลน์ของไต้หวันในปี 64 เติบโต 14.75% จากปีก่อน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งชาวไต้หวันมีความชื่นชอบในสินค้าของไทย ซึ่งได้อานิสงค์มาจากการที่ชาวไต้หวันนิยมมาเที่ยวเมืองไทย จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทยในการขยายตัวเข้าสู่ตลาดไต้หวันต่อไป
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์