คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จะเสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อพิจารณามาตรการในการเปิดประเทศ เช่น ยกเลิกมาตรการ Test&Go รวมทั้งการกักตัวและการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR (Real Time PCR) โดยปรับมาให้ผู้เดินทางเข้าประเทศแสดงวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) หรือหลักฐานการฉีดวิคซีน 2 เข็มก่อนเข้าประเทศเท่านั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวของไทย และช่วยดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว เข้ามาประคองเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมา และแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบของการติดเชื่อโอมิครอนที่มีอาการรุนแรงไม่มากนัก ประกอบกับการปรับกลยุทธ์ของภาครัฐที่เตรียมจะปรับให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 65 จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งปีหลัง โดยตลอดทั้งปี จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่ที่ 5.58 – 6 ล้านคน
“หากคิดเร็วๆ จะพบว่า รายจ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้จ่ายในไทยนั้น อยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อหัว ซึ่งเท่ากับว่าจะมีรายได้เข้าประเทศถึง 558,000-600,000 ล้านบาท โดยเฉพาะระหว่างเดือนมี.ค.จนถึงเม.ย.นั้น ถือเป็นช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาประเทศไทย หากเราเร่งปรับเงื่อนไขต่างๆ ให้สะดวกขึ้น รวมทั้งการผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกติ ไม่ว่าจะเป็นการประชุม สัมมนา การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง”
คุณสุพันธุ์ กล่าว
นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว พบว่า จากการเดินทางและการสืบค้นในโลกอินเทอร์เน็ต ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา (Google mobility) ยังคงมีอัตราสูงกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยเริ่มคลายความกังวลจากโอมิครอนแล้ว ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการมีวันหยุดยาว ทำให้นักท่องเที่ยวไทยเริ่มกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปีอยู่ที่ 126.4 ล้านคน/ครั้ง ดังนั้น รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติรวมกันแล้วกว่า 1 ล้านล้านบาท
“เราจำเป็นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นกับนานาชาติ ถึงความพร้อมของไทยในการเปิดประเทศ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาได้เร็วยิ่งขึ้น อย่างในหลายประเทศก็ได้มีการยกเลิกมาตรการควบคุมต่างๆ เกือบทั้งหมดแล้ว และหันมาเน้นการใช้หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 (Vaccine Passport) อย่างเดียว ก็สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ ได้”
คุณสุพันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทางระหว่างประเทศ และจะเป็นผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ภาคบริการ และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อีกกว่า 3 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ทั้งภัตตาคารและร้านอาหาร ร้านขายของชำ ร้านค้าทั่วไป โรงแรม และรีสอร์ท ให้สามารถดำเนินธุจกิจต่อไปได้ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนในช่วงนี้
ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์