กรุงเทพฯ 12 กรกฎาคม 2565 – FTSE Russell สถาบันจัดทำดัชนีหลักทรัพย์จากประเทศอังกฤษ ประกาศชื่อบริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับสมาชิกดัชนีความยั่งยืนชั้นนำ FTSE4Good ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจว่ากลุ่มทรู เป็นองค์กรจากประเทศไทยที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโลก และติดอันดับต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สะท้อนความมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาสร้างสรรค์คุณค่าระยะยาว พร้อมขับเคลื่อนโครงการในด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านธรรมาภิบาล มุ่งเน้นบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ด้านสิ่งแวดล้อม ติดตั้งพลังงานสะอาดโซล่าร์เซลล์ที่เสาสัญญาณและชุมสาย เดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก และด้านสังคม ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนไทยผ่านมูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์อีดี แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “ทรู เฮลท์”
คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ในปี 2565 นี้เป็นอีกครั้งที่กลุ่มทรู ได้รับการประกาศให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index Series ต่อเนื่องถึง 6 ปีซ้อน และบันทึกสถิติใหม่ในการได้คะแนนรวมสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเมื่อเทียบกับองค์กรชั้นนำจากทั่วโลก จากการดำเนินโครงการต่างๆที่ครอบคลุมทุกมิติได้อย่างเป็นรูปธรรม ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนของ FTSE Russel ประเทศอังกฤษ ที่ประกอบด้วยด้านธรรมาภิบาล สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานทุกคน ที่ทุ่มเทและตั้งใจปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง ร่วมแรงร่วมใจนำพาทรู สู่ความเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนอย่างแท้จริง พร้อมส่งมอบคุณค่าระยะยาวแก่สังคมและประเทศไทย อีกทั้งยังตอกย้ำความสำเร็จในการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งกลุ่มทรู ได้ยึดเป็นหลักปฏิบัติมาโดยตลอด”
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้ เป็นผลจากการสานต่อโครงการที่สำคัญทั้งด้านธรรมาภิบาล ที่มุ่งเน้นบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโดยเฉพาะ ด้านสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการติดตั้งโซล่าร์เซลล์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่เสาสัญญาณและชุมสายมาอย่างต่อเนื่องพร้อมเดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก อันสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ทางตรงและทางอ้อม (Scope 1 และ Scope 2) สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามแนวทาง Science-Based Target Initiative (SBTi) ภายในปี 2593 ในด้านสังคม ซึ่งได้คะแนนเต็ม บริษัทฯ เน้นการดูแลผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ ทั้งในส่วนลูกค้า และชุมชน ได้แก่ True Virtual World แพลตฟอร์มการทำงานการเรียนยุคดิจิทัล มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ที่รวมพลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนอนาคตการศึกษาไทยทั่วประเทศ และแอปพลิเคชันหมอดี (MorDee) แพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะที่เชื่อมโยงบริการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในส่วนของคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ได้จัด True Supplier Day เป็นประจำทุกปีเพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองกับคู่ค้าในเรื่องการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน และความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของภาคธุรกิจ ขณะที่ในส่วนของพนักงาน ได้สร้างสรรค์และจัดกิจกรรมอันหลากหลายผ่านโครงการ “ปลูกรัก” 4 ด้าน คือ ปลูกรักสุขภาพ ปลูกรักปลูกธรรม ปลูกความผูกพัน ปลูกความมั่งคั่ง และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้พนักงานมากขึ้น เช่น ปรับปรุงสำนักงานรูปแบบ Co-Working Space และให้สิทธิ์วันลาเพื่อดูแลบุตรที่คลอดใหม่สำหรับพนักงานหญิง 120 วัน และพนักงานชายลาได้ 15 วัน ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น”